MTS Help Center

ราคาทองคำยังคงมีภาพหลักเป็นขาขึ้น โดยยังสามารถทรงตัวได้เหนือ 1,500 เหรียญ หรือมีการแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 16 เหรียญ หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วทองคำได้รับแรงหนุนครั้งใหญ่จากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ทำให้เกิดแรงเทขายเข้ามาอย่างหนักในสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ดูเหมือนสหรัฐฯจะเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้าจีนออกไปเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งหากทองคำสามารถยืนเหนือสูงสุดเดิมได้อย่างต่อเนื่องก็จะสะท้อนถึงภาวะขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

อย่างไรก็ดี แนะจับตาประชุมเฟดและอีซีบี ณ การประชุมธนาคารกลางทั่วโลก ณ เมืองแจ็กสัน โฮล ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญต่างๆ



ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือ 1,500 เหรียญ จากความกังวลต่อสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ จากผลสะท้อนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่มีความผกผันกัน ซึ่งหากปัญหาหรือสัญญาณจากสงครามการค้า และการอ่อนตัวของผลตอบแทนพันธบัตรคลายจากตลาดไปก็อาจเป็นการยากที่จะเห็นราคาทองคำปรับขึ้นต่อ แต่โดยภาพรวมราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น และเราวิเคราะห์ได้ 2 กรณี ดังนี้

1. ทองคำยังสามารถปิดเหนือแนวรับ และกลับใกล้ 1,527 เหรียญ ก็มีโอกาสจะเห็นทองคำฝ่าไปที่ 1,541 เหรียญได้ รวมทั้งอาจเปิดโอกาสให้ทองคำขยับขึ้นไปที่ 1,554 เหรียญ และ 1,565 เหรียญตามลำดับ

2. ผู้ที่ถือสถานะ Short ยังไม่แนะนำให้ทำการลงทุนในสภาวะช่วงนี้ จนกว่าจะเกิดการ Breakout จากเทรนขาขึ้น และเมื่อนั้นให้หาจังหวะทำกำไรแบบ Scalping Trades

มุมมองขาขึ้น: ทองคำจะยังเป็นขาขึ้นหากยืนเหนือ 1,500 เหรียญ ท่ามกลางการร่วงลงของสินทรัพย์เสี่ยงที่อ่อนตัว ทำให้เกิดความต้องการในสินทรัพย์ปลอดภัยทั่วโลก และความผกผันของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะส่งผลให้เกิดการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในระยะอันใกล้นี้ และประเด็นนี้ดูจะเป็นการสนับสนุนทองคำ ซึ่งปัจจัยทางเทคนิคและพื้นฐานดูจะยังสอดคล้องและสนับสนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นต่อ มีโอกาสเห็น 1,800 เหรียญได้ไวกว่าที่คาด

มุมมองขาลง: ยังไม่เหมาะกับการลงทุนในเวลานี้

มุมมองระยะยาว: ยังเป็นขาขึ้น และคาดว่าจะเห็นทองคำปรับขึ้นได้ต่อ

สรุปว่า มีความเป็นไปได้ทั้งสองทาง โดยหากทองคำยืนเหนือ 1,520 เหรียญ จะมีเป้าหมายที่ 1,527 เหรียญ และ 1,541 เหรียญตามลำดับ ซึ่งจุด Stop Loss จะอยู่บริเวณ 1,508 เหรียญ แต่ขณะที่เป้าหมายระยะยาวของทองคำอยู่ที่ 1,554 เหรียญ และ 1,565 เหรียญตามลำดับ

หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ หรือเมื่อราคา Break ลงมา เพราะนั่นจะเหมาะกับการเปิดสถานะ Long เพื่อรอทำตามเป้าหมายดังกล่าว กรณีผู้ถือ Short อาจใช้ประโยชน์จากการทำกำไรแบบ Scalping Trade เท่านั้น



ที่มา: Trading View