โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปรับเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากที่ร่วงลงไป 1.3% ในช่วงก่อนหน้านี้
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ร่วงลงไปในช่วงก่อนหน้านี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับประเด็นสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ชะลอลงไป หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯแสดงความเต็มใจที่จะกลับมาเจรจากับจีนอีกครั้ง โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.96% ที่ระดับ 20,456.08 จุด
ขณะที่ความเชื่อมั่นของตลาดปรับตัวลดลง หลังจากคำพูดของนายทรัมป์เกี่ยวกับการค้าในสหรัฐฯ - จีน ช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้นประมาณ 270 จุดในการซื้อขายช่วงเช้า
· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากผลกำไรภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนก.ค.ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่มุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นให้เหล่านักลงทุน
โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 1.4% ที่ระดับ 2,902.19 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงเล็กน้อย ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยังประเด็นการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมทั้งประเด็นทางการเมืองในอิตาลี
โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.2% ด้านหุ้นกลุ่มยานยนต์ หุ้นกลุ่มก่อสร้างและกลุ่มเคมีภัณฑ์ ลดลง 0.5% ขณะที่หุ้นสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น 0.3% เนื่องจากตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นายอิทธิชัย ยศศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนก.ค. 62 หดตัวร้อยละ 3.23 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนี MPI เดือนก.ค. 62 ได้แก่ รถยนต์และเครื่องยนต์ น้ำมันปิโตรเลียม เหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน ผลิตภัณฑ์ยาง และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สาเหตุหลักมาจากผลกระทบจากเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่องส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและคำสั่งซื้อจากตลาดต่างประเทศชะลอตัวลง ยกเว้นน้ำมันปิโตรเลียมที่มีการซ่อมบำรุงโรงกลั่น ในขณะที่อุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวกต่อ MPI ได้แก่ การกลั่นและการผสมสุรา เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน น้ำมันปาล์ม เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์
- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย (สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนก.ค.62 อยู่ที่ 100.7 หดตัวลง 3.23% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนี ได้แก่ รถยนต์และเครื่องยนต์ น้ำมันปิโตรเลียม เหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน ผลิตภัณฑ์ยาง และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สาเหตุหลักมาจากผลกระทบจากเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่องและคำสั่งซื้อจากตลาดต่างประเทศชะลอตัวลง ยกเว้นน้ำมันปิโตรเลียมที่มีการซ่อมบำรุงโรงกลั่น ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือน ก.ค.62 อยู่ที่ 65.68%
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดแนวโน้มสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในช่วงที่เหลือของปี 62 อาจเผชิญข้อจำกัดของการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี 62 และธนาคารพาณิชย์หลายแห่งยังคงติดตามประเด็นคุณภาพสินทรัพย์ และต้องเร่งบริหารจัดการปัญหาในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ทั้งในและต่างประเทศ อาจเพิ่มความท้าทายต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยตลอดช่วงครึ่งหลังของปี
- ผู้ตรวจการแผ่นดินให้ยื่นคำร้องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยกรณีที่นายภาณุพงศ์ ชูรักษ์ ขอให้พิจารณาการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 อันเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้ร้องเรียน โดยจะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญในช่วงบ่ายวันนี้