· ราคาทองคำอ่อนตัวลงตามการแข็งค่าของดอลลาร์ และกลุ่มนักลงทุนทำการปิดสถานะทำกำไรหลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในรอบกว่า 1% แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการค้าของสหรัฐฯและจีนและเศรษฐกิจโลกก็ดูจะยังเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปีได้
· ราคาทองคำตลาดโลกปิดปรับลง 0.4% ที่ระดับ 1,536.83 เหรียญ หลังจากที่วันจันทร์ทำ High สูงสุดตั้งแต่ เม.ย. 2013 ที่ระดับ 1,554.56 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดปรับลง 2.7 เหรียญ ที่ระดับ 1,549.1 เหรียญ
· กองทุนทองคำ SPDR ทำการเข้าซื้อเพิ่มอีก 9.09 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 882.41 ตัน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ 1 ธ.ค. ปี 2016
· ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายจาก High Ridge Futures กล่าวว่า ยังไม่มีความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้นในเวลานี้ ประกอบกับมีข่าวค่อนข้างมากเกี่ยวกับสงครามการค้าและความกังวลทางเศรษฐกิจที่เป็นปัจจัยในการสนับสนุนตลาดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ จึงเห็นแรงเทขายทำกำไรเข้ามาบ้างในสภาวะที่ราคาทองคำฟื้นตัว และการแข็งค่าของดอลลาร์ที่เป็นปัจจัยกดดันทองคำ
· ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.2% ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯดูจะมีการกลับมาเคลื่อนไหวแดนบวกได้ จึงเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ แต่ภาพความเชื่อมั่นในตลาดทั่วโลกยังคงดูเปราะบางตามความผกผันของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย และการขาดความชัดเจนในเรื่องสงครามการค้าที่ช่วยสนับสนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
· นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโสจาก RJO Futures กล่าวว่า การปรับอ่อนตัวลงในเวลานี้ไม่คิดว่าจะเห็นราคาทองคำปรับตัวลงต่อ เนื่องจากจะเห็นได้ถึงความพยายามเข้าซื้อของบรรดาเทรดเดอร์เป็นลักษณะ Buy the dips ท่ามกลางภาวะผกผันของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ประกอบกับท่าทีที่เฟดจะลดดอกเบี้ย จึงดูเหมือนจะหนุนให้นักลงทุนหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
· รายงานจาก CNBC ระบุว่า บรรดาเทรดเดอร์มองว่ามีโอกาส 91% ที่จะเห็นเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนหน้า และปรับลดอีก 1% ในปีหน้า
· ตลาดการเงินจับตาไปยังแผนการออกจากอียูของอังกฤษอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกังวลว่า ภาวะ Hard Brexit หลังจากที่ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนปัจจุบันจะเลื่อนประชุมสภาออกไป
· ราคาซิลเวอร์ปิด +0.7% ที่ระดับ 18.29 เหรียญ หลังจากไปทำระดับสูงสุดตั้งแต่เม.ย. ปี 2017 ในช่วงต้นตลาด
Thai
Eng