ราคาทองคำปรับสูงขึ้น 0.3% แถว 1,543.86 เหรียญ เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี ที่1,554.56 เหรียญ ซึ่งขึ้นไปได้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ด้านราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.2% แถว 1,552.40 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ระบุว่า ทิศทางขาขึ้นของทองคำเริ่
มชะลอตัว เนื่องจากตลาดกำลังเฝ้ารอความคื
บหน้าเกี่ยวกับประเด็
นสงครามการค้า เพื่อใช้เป็นปัจจัยหนุ
นราคาทองคำ ทั้งนี้ หากมีสัญญาณเชิงบวกเกี่ยวกั
บการเจรจาการค้า จะเป็นผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ แต่จะกดดันราคาทองคำ
· รัฐบาลสหรัฐฯยืนยันว่าจะดำเนิ
นการขึ้นภาษีจีนอีก 5% สำหรับสินค้านำเข้ามูลค่า 3 แสนล้านเหรียญ โดยจะมีผลบังคับในวันที่ 1 ก.ย. และ 15 ธ.ค.
ทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีท่าทีแข็งข้อกับจีนลดน้อยลง แต่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงกลยุทธ์กดดันการค้ากับจีนด้วยการขึ้นภาษีไปแต่อย่างใด ขณะที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าตัวแทนเจรจาสหรัฐฯ-จีนจะกลับมาพบกันภายในเดือน ก.ย. ได้หรือไม่
· อีกปัจจัยที่เป็นความไม่แน่
นอนของการเมืองโลก คือการที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศระงับการทำงานของรัฐสภาอั
งกฤษไปเป็นเวลามากกว่า 1 เดือนก่อนที่จะถึง Brexit
· ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบั
ตรสหรัฐฯอายุ 30 ปี และของเยอรมนีอายุ 10 ปี ต่างปรับร่วงลงทำระดับต่ำสุดเป็
นประวัติการณ์เมื่อวานนี้
· ทั้งเฟดและอีซีบีต่างถู
กคาดการณ์ว่า จะทำการปรับลดดอกเบี้
ยในการประชุมเดือนหน้า ส่วนทางบีโอเจมีแนวโน้มที่จะปรั
บลดดอกเบี้ยลงอีกเช่นกัน หากความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจยั
งคงอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง
ตลาดคาดโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือน ก.ย. และคาดว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 1% ภายในสิ้นปี 2020
· กองทุน SPDR เพิ่มการถื
อครองทองคำในภาพรวมเดือนนี้
ไปกว่า 6.6%
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มBreak แนวต้านที่ 1,546 เหรียญ และจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,568 เหรียญ ก่อนที่จะเริ่มกลับตัวจากทิ
ศทางขาขึ้น
· ดัชนีดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัวในวั
นนี้ หลังจากปรับขึ้นมา 0.2% ในช่วงตลาดก่อนหน้า
· ราคาทองคำเริ่มมีแรงซื้อกลั
บมาแถว 1,540 เหรียญ
นักวิเคราะห์จาก FX Street ราคาทองคำดูจะเริ่มมีแรงซื้อกลับมาแถวระดับ 1,540 เหรียญ ท่ามกลางความเคลื่อนไหวล่าสุดของการค้า
โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ ดูจะไม่มั่นใจว่าการเจรจาระหว่างตัวแทนสหรัฐฯ-จีนจะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย. หรือไม่ ขณะที่ทางสมาคม Agence France-Presse เปิดเผยรายงานล่าสุด ที่แสดงให้เห็นว่า บรรดาธุรกิจชั้นนำกำลังได้รับผลกระทบจากสงครามภาษี
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมุมมองของตลาดทองคำยังขาดความชัดเจนในระยะสั้น ข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการค้าจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อทองคำได้ค่อนข้างมาก
Technical Analysis
บรรดานักลงทุนกำลังรอการ Breakout เหนือแนวต้านแรกที่ระดับ 1,555 เหรียญ เพื่อที่จะจับตาไปยังเป้าหมายต่อไปที่ 1,600 เหรียญ ขณะที่แนวรับระยะสั้นมองไว้ที่ 1,518 เหรียญ ซึ่งน่าจะเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง
· GOLD TECHNICAL ANALYSIS
ราคาทองคำกำลังปรับสูงขึ้นหลังจากผ่านแนวต้านที่ระดับ 1,535.03 เหรียญที่เป็นระดับสูงสุดของวันที่ 13 ส.ค. นักลงทุนจึงกำลังจับตาไปยังแนวต้านถัดไปที่ 1,563.00 เหรียญ อย่งไรก็ตาม สัญญาณ RSI เริ่มบ่งชี้ว่าราคาอาจเริ่มชะลอตัวในทิศทางขาขึ้น หากราคาย่อตัวหลุดแนวรับแรกที่ 1,535.03 เหรียญ อาจมีโอกาสย่อตัวลงไปถึงระดับ 1,480.0 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก RJO Futures พบว่ามีกระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดทองคำเป็นปริมาณมาก โดยเมื่อวานนี้ มีการเข้าซื้ออนุพันธ์ทองคำเพิ่มขึ้นเป็นปริมาณกว่า 489 ออนซ์ ทำให้ภาพรวมการถือครองอนุพันธ์ทองคำอยู่ในระดับที่สูงที่สุดในรอบปี
ทั้งนี้ เชื่อว่าราคาทองคำจะปรับขึ้นไปถึงระดับ 1,600 เหรียญ เนื่องจากมีปัจจัยหลากหลายที่สนับสนุนราคาทองคำ โดยเฉพาะแนวโน้มที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งในท้ายที่สุดอาจช่วยเหลือเศรษฐกิจสหรัฐฯไม่ได้มากนัก เนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลกต่างมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยลงด้วยกันทั้งนั้น รวมถึงประเด็นสงครามการค้า ซึ่งทุกครั้งที่มีความเคลื่อนไหวในทางลบ เรามักจะเห็นปริมาณการเข้าซื้อทองคำที่สูงขึ้นตามมา
· นักวิเคราะห์จาก Citigroup มีมุมมองว่า การเคลื่อนไหวที่สวนทางกันระหว่างดัชนี S&P 500 กับราคาทองคำ กำลังทดสอบระดับสำคัญ ซึ่งดัชนี S&P 500 ที่กำลังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เคลื่อนไหวแบบผกผันมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดการ Breakout ร่วงลงมาอย่างหนัก อาจเปิดโอกาสให้ราคาทองคำปรับขึ้นได้ถึง 25% หรือขึ้นไปถึงระดับ 2,000 เหรียญได้
· ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.7% แถว 18.46 เหรียญ ใกล้ระดับสูงสุดของเมื่อวานที่ 18.50 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. ปี 2017
ราคาแพลทินัมปรับสูงขึ้น 1% แถว 908.87 เหรียญ ส่วนราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.5% แถว 1,475.65 เหรียญ