นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่อง Brexit ที่ยังคงดำเนินไป และดูจะเป็นความเสี่ยงที่ทำให้มีความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเพิ่มขึ้น ขณะที่ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ที่ตลาดให้ความสำคัญคือเรื่องของข้อมูล PMI, การจ้างงาน และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ
ราคาทองคำกลับมาอ่อนตัวหลังจากที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วง 4 สัปดาห์ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่มีการลดการถือครองในช่วงก่อนวันหยุดยาว โดยในวันนี้จะเป็นวันแรงงานของสหรัฐฯ และราคาทองคำดูจะยังผันผวนตามเนื้อข่าวที่เข้ามากระทบจากความไม่แน่นอนของประเด็นต่างๆข้างต้นที่เกิดขึ้น และในทางเทคนิคราคาดูจะเคลื่อนไหวใกล้ระดับแนวรับ 1,506 – 1,510 เหรียญ และวิเคราะห์ได้ 2 ทิศทางคือ
1. ราคาทองคำปิดเหนือแนวรับจนกว่าจะสามารถทรงตัวได้เหนือ 1,527 เหรียญ ซึ่งหากฝ่าไปได้ มีโอกาสเห็นราคาฟื้นตัวไปแนว 1,541 เหรียญ และหากผ่านไปได้อีกจะกลับไปที่ 1,554 เหรียญ รวมทั้งจะมีเป้าหมายถัดไปที่ 1,571 เหรียญ
2. ผู้ถือสถานะ Short ยังไม่ควรทำอะไรในเวลานี้ เนื่องจากเทรนทองยังเป็นขาขึ้น หรือหากจะทำกำไรเน้นเล่นระยะสั้นมากในสไตล์ Scalping Trades
มุมมองขาขึ้น: ภาพของราคาทองคำยังเป็นขาขึ้นแม้จะอ่อนตัวลงมาจากสถานการณ์ที่ดูจะคลายความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนบางส่วน แต่ความไม่แน่นอนทั้งหมดยังทำให้ตลาดสามารถอยู่ในทิศทางขาขึ้นได้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อภาวการณ์ชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก ที่ดูเป็นปัจจัยหลักในการสนับสนุนราคาทองคำ ในขณะนี้หากขึ้นได้ต่อ ทองคำจะมีระดับเป้าหมายบริเวณ 1,800 เหรียญ
มุมมองขาลง: ยังคงเป็นจังหวะของทิศทางขาขึ้น
มุมมองระยะยาว: ยังคงเป็นขาขึ้น และคาดจะเห็นราคาปรับตัวสูงขึ้นได้อีก
สรุปได้ว่า มีความเป็นไปได้ในสองกรณี และเราควรหาจังหวะเข้าซื้อหากราคาทองคำสามารถยืนได้เหนือ 1,527 เหรียญ ซึ่งจะมีเป้าหมายถัดไปที่ 1,541 เหรียญ และ 1,554 เหรียญ ซึ่งจุด Stop Loss ที่ควรตั้งไว้อยู่ที่ระดับ 1,514 เหรียญ สำหรับภาพระยะยาวมีเป้าหมายราคาที่ 1,571 เหรียญ หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ ขณะที่นักลงทุนจะถือ Short ควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุนและหากจะเล่นจริงๆ ควรเป็นแบบ Scalping Trades เท่านั้น
ที่มา: Trading Vie