• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 3 กันยายน 2562

    3 กันยายน 2562 | SET News
 

· สัญญาอนุพันธ์ล่วงหน้าปรับตัวลดลงในวันนี้ ท่ามกลางการขึ้นภาษีระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ต่างฝ่ายต่างเดินหน้าขึ้นภาษีรอบใหม่ระหว่างกัน โดยดัชนีดาวโจนส์ ฟิวเจอร์ส ปรับลง 234 จุด หลังจากที่ช่วงต้นตลาดเปิดร่วงไปกว่า 235 จุด ทางด้าน S&P500 และ Nasdaq ฟิวเจอร์สก็เปิดแดนลบเช่นกัน หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดในคืนเมื่อวานในช่วงวันหยุดแรงงาน

· นักวิเคราะห์จาก FXEMPIRE กล่าวว่า ดัชนี S&P500 เปิดอ่อนตัวลงในช่วงต้นตลาดวานนี้อันเป็นผลตอบรับของตลาดจากกรณีการขึ้นภาษีสินค้าของสหรัฐฯและจีน จึงคาดว่าประเด็นดังกล่าวจะส่งผลลบมากกว่าเป็นผลบวกต่อตลาด โดยจะเห็นได้่าหากตลาดยังคงเผชิญกับประเด็นเชิงลบมากกว่าบวก การทำสถานะShort ก็น่าจะดีเมื่อเห็นราคามีการดีดกลับ แต่หากดัชนีร่วงหลุดต่ำกว่า 2,850จุดลงมา ก็จะเป็นจังหวะดีที่ควรเริ่มต้นเข้าซื้อ



· ตลาดหุ้นทั่วโลกต่างปรับตัวลดลง ท่ามกลางแรงกดดันจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ขณะที่ค่าเงินปอนด์อังกฤษอ่อนค่าทำระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับกรณี Brexit ท่ามกลางความพยายามของ ส.ส. อังกฤษเพื่อกีดกันไม่ให้นายกรัฐมนตรีสามารถนำอังกฤษออกจากอียูแบบ No-deal

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเอเชียปรับลดลงเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับลดลง 0.7% ขณะที่ดัชนีหุ้นของอินเดียปรับลดลง 1% หลังการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจอินเดียเมื่อวันศุกร์ออกมาไม่สดใส

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวกท่ามกลางค่าเงินเยนที่อ่อนค่าจึงหนุนหุ้นกลุ่มผู้ส่งออก แต่ปัจจัยเชิงลบอย่างสงครามการค้าและ Brexit ยังกดดันภาพรวมของความเชื่อมั่นของตลาด จึงไม่สามารถปรับสูงขึ้นไปมากกว่านี้ โดยดัชนี Nikkei ปิด +0.18% ที่ระดับ 20,657.81 จุด



· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดแดนลบเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ ท่ามกลางความกังวลของตลาดเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของกรณี Brexit และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่กดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยดัชนี STOXX 600 เปิด -0.26%

อ้างอิงสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัว โดยช่วงเช้าได้แรงหนุนจากแรงเก็งกำไรในประเทศที่เข้ามาที่หุ้นในกลุ่มสื่อสารและกลุ่มโรงไฟฟ้า หลังจากที่ช่วงนี้ตลาดฯไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน

- นายรัฐพล ชื่นสมจิตต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยเมื่อช่วงเช้าว่า บริษัทมีแผนการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้า ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นเชื้อเพลิง ขนาดกำลังการผลิตรวม 6,000 เมกะวัตต์ (MW) ในประเทศเวียดนาม และพร้อมกับการต่อยอดไปสู่ธุรกิจซื้อขายก๊าซ LNG ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในปี 63 ขณะเดียวกันยังได้เจรจากับพันธมิตรจีนเพื่อร่วมก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาว ขนาดกำลังการผลิต 2,500 เมกะวัตต์ เบื้องต้นบริษัทจะถือหุ้นในสัดส่วน 30-35% โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปของแผนลงทุนภายในปี 63

- ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยตัวเลขหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ที่ระดับ 13 ล้านล้านบาทนั้น ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยที่อยู่ในระดับสูงเป็นประเด็นที่ ธปท. แสดงความกังวลอย่างต่อเนื่อง เพราะหนี้ที่สูงสะท้อนถึงความเปราะบางและการขาดภูมิคุ้มกันของภาคครัวเรือน ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาครัวเรือนที่อ่อนไหวต่อปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ (income shock) มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้

- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงการประเมินผลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลกว่า 3 แสนล้านบาทว่า ต้องดูใน 2 ส่วน คือ ดูเป็นรายมาตรการว่ามีผู้เข้าร่วมเท่าใด อาทิ ท่องเที่ยวตั้งเป้าหมาย 10 ล้านคน ต้องดูว่าจะมาลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการเท่าไหร่ และมีการใช้เงินเพิ่มนอกเหนือจากที่รัฐบาลแจกให้ 1 พันบาทต่อคนเท่าใด หลังจากจบมาตรการเดือนพฤศจิกายน จะสามารถประเมินได้ทันที

- นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จะนำผลการหารือกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กรณีการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ประเด็นการถวายสัตย์เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้พิจารณาว่าจะเป็นวันใด และจะเป็นการประชุมลับหรือไม่ ซึ่งเมื่อครม.ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว จะประสานไปยังสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ การแสดงความคิดเห็นจะถือเป็นเอกสิทธิของ ส.ส.แต่ละคนด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ประเด็นการถวายสัตย์ฯ ว่า กรณีนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรก้าวล่วง เพราะการอภิปรายไม่ว่าเป็นทางดีหรือไม่ดี ก็อาจเป็นการชี้นำศาลได้ แต่หากมีการอภิปรายเกิดขึ้น ผู้อภิปรายจะต้องรับผิดชอบต่อคำพูดด้วย

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com