· ราคาทองคำปรับตัวลดลงกว่า 2% ในขณะที่ซิลเวอร์ปรับลงกว่า 4% ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และความหวังต่อการเจรจาแก้ไขปัญหาทางการค้าของสหรัฐฯและจีนที่ดูจะกลับมาช่วยหนุนการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และลดความกังวลต่อภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก รวมทั้งผลักดันให้ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น
· ราคาทองคำตลาดโลกปิด -2.3% ที่ระดับ 1,517.2 เหรียญ และราคาซิลเวอร์ปิดปรับลง 4.2% ที่ระดับ 18.74 เหรียญ หลังจากที่ช่วงต้นตลาดราคาทองคำทำ Low ที่ 1,509.03 เหรียญ และซิลเวอร์ทำ Low ที่ 18.48 เหรียญ และส่งผลให้ภาพรวมสินค้าทั้งสองชนิดมีอัตราการปรับตัวลงรายวันมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง
ทางด้านสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดปรับตัวลง 2.2% ที่ระดับ 1,525.9 เหรียญ
· ราคาแพลทินัมก็ปิดลดลงด้วยเช่นกันโดยปิด -2.3% ที่ 963 เหรียญ หลังไปทำระดับต่ำสุดของวันที่ 940.5 เหรียญ
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ขายทองคำออก 6.15 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 889.75 ตัน
· ข้อมูลจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯที่เปิดเผยโดย ADP ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ภาคบริการสหรัฐฯขยายตัวอย่างรวดเร็วในเดือนส.ค. จึงกลายมาเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้น ประกอบกับสัญญาณบวกจากสงครามการค้าสหรัฐฯและจีน
· หัวหน้านักวิเคราะห์ฝ่ายการซื้อขายจาก BMO กล่าวว่า ราคาทองคำในตลาดอ่อนตัวลงจากข้อมูลของ ADP และ ISM ล่าสุดที่เปิดเผยออกมา ประกอบกับความคาดหวังว่าปัญหาความขัดแย้งทางการค้าของสหรัฐฯและจีนจะคลี่คลายลง หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงการพาณิชย์จีน กล่าวยืนยันว่า จะมีการเจรจาระดับสูงกับทางสหรัฐฯในช่วงต้นเดือนต.ค.นี้
· นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า ความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์เสี่ยงกลับมาเพิ่มขึ้นและกลายมาเป็นปัจจัยลบต่อตลาดทองคำ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี พเมมากขึ้นจากคาดการณ์ที่จะเห็นความคืบหน้าของสหรัฐฯและจีนเป็นไปด้วยดี ประกอบกับการเห็นข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ
· กลุ่มนักลงทุนกลับมาให้ความสนใจต่อการประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯในคืนนี้ เพื่อหาสัญญาณความชัดเจนของทิศทางเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยหากข้อมูลออกมาเป็นบวกก็อาจยิ่งเห็นราคาทองคำอ่อนตัวลงได้
· ราคาพลาเดียมปิด +0.6% ที่ระดับ 1,562.93 เหรียญ หลังจากไปทำระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนครึ่งที่ 1,567.68 เหรียญ