· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดแดนบวกจากปัจจัยที่สหรัฐฯและจีนตกลงจะหารือกันในเดือนหน้า โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 372.68 จุด หรือ +1.4% ที่ระดับ 26,728.15 จุด ขณะที่ S&P500 ปิด +1.3% ที่ระดับ 2,976 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +1.75% ที่ระดับ 8,116.83 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับขึ้นจากข้อมูลยืนยันที่ว่าจะมีการกลับมาเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนครั้งใหม่ ประกอบกับความคืบหน้าที่บรรดาส.ส.อังกฤษพยายามขัดขวาง No-Deal โดยดัชนี Stoxx 600 ปิดปรับขึ้น 0.7% หลังจากที่กลุ่มยานยนต์ปิดปรับขึ้นเกือบ 3% ขณะที่หุ้น Health Care ปรับลดลง 0.76%
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลามกลุ่มนักลงทุนทีรอคอยการประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯในคืนนี้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ยังคงให้ความสำคัญและจับตาไปยังความคืบหน้าทางการค้า หลังจากที่ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวจากข่าวที่สหรัฐฯและจีนจะกลับมาเจรจากันอีกครั้งในเดือนหน้า
ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.38% ขณะที่ Topix เปิด +0.19% และหุ้น Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.4% และ S&P/ASX200 ปิด +0.28%
สำหรับภาพรวมดัชนี MSCI ปรับขึ้น +0.17%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเอเชียยังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นสหรัฐฯด้วยเช่นกันที่ปิดปรับขึ้นหนักจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
-นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.45 - 30.70 บาท/ดอลลาร์ โดยเมื่อวานนี้ แม้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.62 ที่รายงานโดย ม.หอการค้าไทย จะออกมาไม่ดี เพราะต่ำสุดในรอบ 33 เดือนก็ตาม แต่เงินบาทก็ไม่ได้ตอบรับปัจจัยนี้เท่าใดนัก
-ม.หอการค้าไทย เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ส.ค.62 อยู่ที่ระดับ 73.6 ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 6 และต่ำสุดในรอบ 33 เดือนเนื่องจากความไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางการเมืองเป็นสำคัญ อีกทั้งผู้บริโภคยังกังวลกับความไม่แน่นอนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงสูง ราคาสินค้าเกษตรยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย ดังนั้นรัฐบาลจึงควรดำเนินนโยบายการเงินและการคลังที่ผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ม.หอการค้าไทย ยังกล่าวว่า หากอัตราเงินเฟ้อจากนี้จนถึงสิ้นปียังอยู่ในระดับต่ำ และต่ำกว่ากรอบเป้าหมายที่ 1-4% ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็น่ายังมีช่องพอที่จะทำให้ ธปท.จำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้อีกจากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 1.50%
-นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี คาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/62 จะเริ่มดีขึ้น หลังการเบิกจ่ายโครงการเมกะโปรเจ็คต์ทั้งหลายน่าจะทยอยออกมา รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกไปโดยกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเม็ดเงินอาจจะออกไม่ทันไตรมาส 3 แต่น่าจะมาไตรมาส 4