· ค่าเงินยูโรร่วงลงทำระดับต่ำสุดรอบ 5 วันทำการเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ยังคงตอบรับกับกระแสคาดการ์ที่จะเห็นอีซีบีอาจกลับมาใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ ขณะที่บรรดากองทุนต่างๆเริ่มมีการถือครอง Short มากขึ้นในยูโร จากคาดการณ์ที่ว่า อีซีบีน่าจะทำการลดดอกเบี้ย และมีการประกาศจะเข้าซื้อพันธบัตรหรือสินทรัพย์อื่นๆ หรือดำเนินการควบคู่กันไป
ในขณะที่บรรดาธนาคารกลางอื่นๆทั่วโลกก็ดูจะพร้อมเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ทั้งธนาคารกลางจีน โดยล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่แล้วประกาศปรับลดเงินสดกันสำรองของภาคธนาคาร
นักวิเคราะห์จาก Commerzbank เชื่อว่า อีซีบีน่าจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.2% และหากไม่มีการลดดอกเบี้ยจริงก็น่าจะสร้างเซอร์ไพร์สใหญ่ให้แก่ค่าเงินยูโรได้
ขณะที่ตลาดการเงินโดยส่วนใหญ่มองโอกาส 72% ที่จะเห็นอีซีบีเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายมองว่าอีซีบีน่าจะเริ่มเข้าซื้อหุ้นยูโรโซนด้วย ไม่เพียงแต่พันธบัตรรัฐบาลสำหรับมาตรการ QE รอบใหม่นี้
ค่าเงินยูโรล่าสุดอ่อนค่าลงมาแถว 1.1033 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากไปทำระดับต่ำสุดตั้งแต่ 4 ก.ย. ในช่วงระหว่างการซื้อขายที่ 1.10155 ดอลลาร์/ยูโร
ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ 98.438 จุด และมีการเคลื่อนไหวแคบๆเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน โดยจะเห็นได้ว่าค่าเงินเยนทรงตัวที่ระดับ 108.93 เยน/ดอลลาร์
ถ้อยแถลงประธานเฟดล่าสุดที่สะท้อนว่าเฟดจะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินอย่างเหมาะสมเพื่อให้เศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวได้อย่างยั่งยืน ได้หนุนกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อในการประชุม 18 ก.ย.นี้
ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.4% ที่ระดับ 1.2235 ดอลลาร์/ปอนด์ ขณะที่เหล่าเทรดเดอร์รอคอยว่ารัฐสภาอังกฤษจะโหวตเห็นชอบในการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 31 ต.ค. นี้หรือไม่ ซึ่งหากมีการเลือกตั้งจริงและพรรคอนุรักษ์นิยมเป็นฝ่ายชนะ ก็อาจผลักดันร่างกฎหมายขยายเวลาออกจากอังกฤษเป็นครั้งที่ 3
· นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประสบความล้มเหลวในการเสียงสนับสนุนให้จัดการเลือกตั้งใหม่เป็นครั้งที่สอง จึงมีแนวโน้มสูงขึ้นที่เขาจะต้องเจรจากับทางอียูเพื่อขอขยายระยะเวลา Brexit ออกไป
การลงมติยุบสภาและจัดการเลือกตั้งหใมเมื่อคืนนี้ มีเสียงสนับสนุนทั้งสิ้น 293 เสียง แต่กฏหมายระบุว่าไว้ว่าการยุบสภาจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 2 ใน 3 ของทั้งสภา หรือเท่ากับ 434 เสียง จาก ส.ส. ทั้งหมด 650 คน
ทางด้านนายจอห์นสัน ได้ระบุว่าจะดำเนินการเจรจา Brexit ร่วมกับอียูต่อไป แต่จะไม่เจรจาเลื่อนกำหนดของ Brexit แต่อย่างใด โดยเขามีกำหนดการที่จะเดินทางไปร่วมประชุมกับทางอียูในวันที่ 17 ต.ค. นี้ เพื่อพยายามเจรจาหาข้อตกลงให้สำเร็จ
ขณะที่นายเจเรมี โคบลิน หัวหน้าฝ่ายค้านในรัฐสภา ได้ระบุว่า จะไม่ให้การสนับสนุนจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่ จนกว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิด No-deal Brexit ในวันที่ 31 ต.ค. จะหมดลงไปเสียก่อน
นอกจากนี้ นายจอห์นสันได้ยืนยันว่าจะแขวนสภาเป็นเวลา 5 สัปดาห์ตามกำหนดการเดิม โดยเริ่มต้นไปเมื่อคืนที่ผ่านมา ระหว่างนั้นเขาจะเดินทางไปยังเมืองหลวงของไอร์แลนด์ เพื่อเจรจากับนายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ เกี่ยวกับปัญหาด้านพรหมแดนของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งเป็นประเด็นที่กดดันการดำเนินงานของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนก่อนมาโดยตลอด
· รายงานจากเกาหลีใต้ระบุว่า ทางเกาหลีเหนือได้ยิงวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นขีปนาวุธที่ไม่สามารถระบุประเภทได้จำนวน 2 ลูก ออกจากทางตอนใต้ของเกาหลีเหนือไปสู่ฝั่งตะวันออก
การยิงวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือระบุว่ามีความประสงค์ที่จะกลับมาเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับสหรัฐฯอักครั้ง ภายในช่วงปลายเดือน ก.ย.
การยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดนับเป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่ที่การเจรจาระหว่างนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกิดขึ้นในเขตปลอดทหารระหว่างทั้งสองชาติเกาหลีเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับขึ้นได้กว่า 2% หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานคนใหม่ของซาอุดิอาระเบีย หรือเจ้าชายอับดุลลาซิส บิน ซัลมา ยืนยันว่าเขาจะคุมเข้มนโยบายจำกัดการผลิตน้ำมันของประเทศเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ ตลาดยังมีแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ที่ระบุว่า อิหร่านมีมีเครื่องมือทางด้านนิวเคลียร์ที่ยังเป็นความลับอีกมาก ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ชาติตะวันออกกลางทำการต่อต้านการกระทำดังกล่าว
น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 1.31 เหรียญ หรือ +2.3% ที่ระดับ 62.58 เหรียญ/บาร์เรล ในขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิด +1.33 เหรียญ หรือ +2.4% ที่ระดับ 57.85 เหรียญ/บาร์เรล