· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรและตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่เบาบางลง รวมทั้งความเสี่ยงที่ลดลงของประเด็น Brexit จึงกระตุ้นให้เกิดการกลับเข้าซื้อหุ้นที่ราคาตก ก่อนหน้าการประชุมที่สำคัญของบรรดาธนาคารกลางต่างๆ
ราคาน้ำมันก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยได้รับแรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ร่วงลง
โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.6% แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ขึ้น
· ตลาดหุ้นญีปุ่นปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารได้รับผลประกอบการเพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆนี้จากผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคส่งออกได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินเยน
ด้านซัพพลายเออร์บริษัทApple Inc ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเกียวกัน หลังจากที่บริษัทเทคโนโลยีในแคลิฟอร์เนียประกาศเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่
โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.96% ที่ะรดับ 21,597.76 จุด หลังจากเพิ่มขึ้นที่บริเวณ 21,619.21 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดัชนีได้เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นครั้งที่ 7 เนื่องจากการขายพันธบัตรทั่วโลกช่วยให้อัตราผลตอบแทนและความหวังในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนเพิ่มเงินเข้าตลาดหุ้น
· ตลาดหุ้นจีนปิดแดนลบ หลังเจ้าหน้าที่อาวุโสประจำทำเนียบขาวได้ออกมากล่าวเตือนบรรดาผู้ประกอบการและนักลงทุนว่า อย่าเร่งตั้งความหวังกับการเจรจาระหว่างตัวแทนสหรัฐฯ-จีนในเดือน ต.ค. นี้มากเกินไป ขณะที่ตลาดตอบรับกับการส่งสัญญาณออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่จากภาครัฐไม่มากนัก
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิด -0.4% ที่ระดับ 3,008.81 จุด ขณะที่ดัชนีblue-chip CSI300 ปิด -0.7% ที่ระดับ 3,930.10 จุด
· ตลาดยุโรปเปิดแดนบวก ท่ามกลางความเสี่
ยงจากสงครามการค้าและ No-deal Brexit ที่ลดน้อยลงไป ขณะที่นักลงทุนบางส่
วนชะลอการลงทุนเพื่อจั
บตาการประชุ
มบรรดาธนาคารกลางในสัปดาห์นี้ จนถึงสัปดาห์หน้า
โดยดัชนี Stoxx 600 เปิด +0.3% นำโดยหุ้นกลุ่มทรัพยากรที่เปิด +1% ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าสเปิด -0.2% แต่ในภาพรวมหุ้นส่วนใหญ่ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวก
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์
ไทย
นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ในช่วงต้นเดือนต.ค.นี้ จะสามารถสรุปการเจรจาซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์ฟาร์ม) และโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม กำลังผลิตรวม 240 เมกะวัตต์(MW) แบ่งเป็นโซลาร์ฟาร์ม 60 MWมูลค่า 1.8 พันล้านบาท และพลังงานลมอีก 2 แห่ง กำลังผลิต 60 MW และ 120MW ทั้งสองโครงการเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 60 - 70%
ซึ่งบริษัทคาดจะใช้เงินลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และโครงการที่จะเข้าลงทุนปีละประมาณ 8,000 - 9,000 ล้านบาท ในช่วง 3 ปี จากวงเงินลงทุนรวม 28,000 ล้านบาท ซึ่งยืนยันว่ามีกระแสเงินสดเพียงพอที่จะใช้ลงทุน เพราะในแต่ละปีจะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี และค่าเสื่อมเข้ามาปีละประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท อีกทั้งยังสามารถกู้เงินเพื่อมาพัฒนาโครงการได้ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 2.26 เท่า แต่ยังมีช่องให้กู้ได้อีก 0.7 เท่า คิดเป็นวงเงิน 6,000 - 7,000 ล้านบาท
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยผลภาพรวมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ 51 ว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการพัฒนาของโลกและภูมิภาค ทบทวนการดำเนินตามแผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2025 (AEC Blueprint 2025) พร้อมทั้งรับทราบการเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียนในภาพรวมปีนี้ ที่คาดว่าจะเติบโตได้ 4.8% และปีหน้าที่ 4.9% โดยการค้าสินค้าในอาเซียนเพิ่มขึ้น 8.7% การค้าบริการเพิ่มขึ้น 10.6% ในขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพิ่มขึ้น 5.3%
- นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือน ก.ย.62 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (พ.ย.62) อยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" (Neutral) (ช่วงค่าดัชนี 80 - 119) โดยลดลง 21.70% มาอยู่ที่ระดับ 102.74
โดยผลสำรวจพบว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ขณะที่นักลงทุนคาดหวังการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของธนาคารสหรัฐ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน
- ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกหนังสือเวียน ขอความร่วมมือแบงก์-นอนแบงก์ช่วยลูกหนี้ ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมทั้งลดดอกเบี้ย ปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมลดวงเงินผ่อน บัตรเครดิตขั้นต่ำน้อยกว่า 10% ถึง มี.ค.63