· ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง 7 วันทำการ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายในระดับปานกลาง หลังจากที่ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนดูจะมีความคืบหน้ามากยิ่งขึ้นและทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นตาม นอกจากนี้ ตลาดยังมีแรงหนุนจากประชุมอีซีบีล่าสุดที่ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 46.02 จุด หรือ +0.17% ที่ระดับ 27,183.06 จุด ขณะที่ S&P500 ปิด +0.29% ที่ 3,009.64 จุด และ Nasdaq ปิด +0.3% ที่ระดับ 8,194.47 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากรายงานทีว่า นายทรัมป์ ผู้นำสหรับฯมีการพิจารณาข้อเสนอในการจำกัดข้อตกลงการค้ากับจีน ขณะที่จีนจะมีการเข้าซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯมากขึ้น พร้อมกับงดเว้นการขึ้นสินค้าบางรายการแก่สหรัฐฯที่ประกาศไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แม้ว่าการขึ้นภาษีระหว่างกันจะยังมีอยู่ก็ตาม
เทรดเดอร์ระบุกับทางรอยเตอร์สว่า ล่าสุดยอดนำเข้าจีนพบว่ามีการเข้าซื้อถั่วเหลืองของสหรัฐฯมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ตอบรับกับความคืบหน้าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนควบคู่กับการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากอีซีบี
โดยดัชนีนิกเกอิเปิด +0.42% ขณะที่ S&P/ASX200 เปิด +0.21% และดัชนี MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นเปิด -0.16%
ตลาดหุ้นจีนและเกาหลีใต้จะปิดทำการในวันนี้เนื่องในวันไหว้พระจันทร์
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 30.40 - 30.55 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาททำระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 ปี นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 56 หลังตลาดคลายกังวลเรื่องสงครามการค้า ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ขณะที่ค่าเงินตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคแข็งค่าเช่นกัน เพราะตลาดมองว่าต้องพึ่งพาการส่งออก
- นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เผยได้ติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้เข้มข้นมากขึ้น ตามข้อสั่งการของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี โดยขอให้รัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนในลักษณะ Front-Loaded เพื่อช่วยให้มีเม็ดเงินอัดฉีดเข้าไปในระบบเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น และให้รัฐวิสาหกิจพิจารณาโครงการลงทุนเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปี 2562 โดยภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจ ณ สิ้นเดือน ก.ค.62 ของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง มีผลการเบิกจ่ายในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค.61 - ก.ค.62) จำนวน 146,707ล้านบาท หรือคิดเป็น 81% ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม