MTS Help Center

· ราคาทองคำปรับตัวสุงขึ้น 1% หลังเหตุโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันสำคัญของซาอุดิอาระเบีย ได้กดดันความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และหนุนความต้องการในสินทรัพย์ปลอดภัยแทน ขณะที่ตลาดยังรอการประชุมของบรรดาธนาคารกลางภายในสัปดาห์นี้

ราคาทองคำปรับขึ้น 1% แถว 1,503.60 เหรียญ หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อน ราคาปิดตลาด -1.2% จากความหวังว่าจะเห็นสหรัฐฯและจีนหาข้อตกลงการค้าร่วมกันได้เสียที

ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.8% แถว 1,511.40 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า เหตุการโจมตีในซาอุดิอาระเบียทำให้เกิดการหมุนเวียนของการลงทุนออกจากสินทรัพย์เสี่ยงและกลับเข้ามาในสินทรัพย์ปลอดภัยแทน ประกอบกับแนวโน้มที่บรรดาธนาคารกลางจะหันมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินกันมากขึ้น จึงมองเป้าหมายแรกของทองคำไว้ที่ระดับ1,530 เหรียญ

· กลุ่มกบฏฮูตีในประเทศเยเมนที่ได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลอิหร่าน ออกมาประกาศว่าพวกเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันสำคัญของซาอุดิอาระเบีย อย่างไรก็ตาม ทางสหรัฐฯระบุว่า มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าอิหร่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโดยตรง ขณะที่ที่ทางนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาข่มขู่ว่า สหรัฐฯได้ “บรรจุกระสุนพร้อมยิง” จึงยิ่งกดดันความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและอิหร่าน

เหตุการณ์ดังกล่าวได้กดดันความเชื่อมั่นในตลาด โยจะเห็นได้จากดัชนีตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับลดลงแถวระดับ 515.4 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่า 0.4% แถว107.64 เยน/ดอลลาร์ และดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.2% แถว 98.052 จุด

· ทั้งนี้ ตลาดจะจับตาการประชุมเฟดและการประชุมบีโอเจในสัปดาห์นี้ เพื่อทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคต

· นักวิเคราะห์จาก Phillip Futures มีมุมมองว่า การผ่อนคลายนโยบายการเงินจะช่วยหนุนความต้องการในทองคำตลอดช่วงครึ่งหลังของปี 2019 โดยธนาคารกลางทั่วโลกต่างเผชิญแรงกดดันให้เร่งออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ จากความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกที่ได้รับกระทบมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน อัตรา

· ความเชื่อมั่นในตลาดยังถูกดดันจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่ออกมาอ่อนแอในวันนี้ โดยอัตราการผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนในเดือน ส.ค. ประกาศออกมาลดลงสู่ระดับต่ำสุดรอบ 17 ปีครึ่ง จึงยิ่งตอกย้ำถึงทิศทางที่เศรษฐกิจจีนจะอ่อนแอลงท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้า และอุปสงค์ในประเทสที่อ่อนแอ

· นักวิเคราะห์จากเทคนิคจาก Reuters คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,524 เหรียญ เนื่องจากราคาได้ทำ Bottom ไปที่ระดับ 1,480 เหรียญ

· ราคาทองคำปรับขึ้นกว่า 1% จากเหตุความสงบในตะวันออกกลาง

ราคาทองคำเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุการโจมตีโรงงานผลิตน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งทำให้ภาพรวมการผลิตน้ำมันของประเทศมากกว่าครึ่งหยุดชะงักลง เทียบเป็นปริมาณอุปทานทั่วโลกถึง 5% โดยราคาทองคำปรับสูงขึ้น 1.2%จากแถว 1.488.75 เหรียญ ไปถึง 1.506 เหรียญ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ปิดตลาดรายสัปดาห์ -1.1%

Fed in focus

ทิศทางทองคำในสัปดาห์นี้ จะขึ้นอยู่กับการประชุมของเฟดเป็นหลัก ซึ่งตลาดคาดว่าจะเห็นเฟดปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% โดยนักวิเคราะห์จากธนาคารING มีมุมมองว่า การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้ เฟดจะทำเพื่อป้องกันความเสี่ยง และสร้างความมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่อได้ เนื่องจากกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อและภาคการบริโภคของประเทศยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ดังนั้น หากคาดหวังว่าจะเห็นเฟดผ่อนคลายนโยบายลงอย่างรุนแรง ก็อาจผิดหวังได้

Gold levels

ราคาทองคำเริ่มเผชิญแรงเทขายใต้เส้นค่าเฉลี่ยราย 21 วัน ขณะที่สัญญาณFibonacci บ่งชี้ว่าราคามีโอกาสย่อตัวกลับไปแถว 1,490 เหรียญ สำหรับฝั่งขาขึ้น ต้องจับตาว่าราคาจะยืนเหนือระดับ 1,500 เหรียญได้ตลอดทั้งวันหรือไม่ หากทำได้ราคาถึงจะมีโอกาสกลับขึ้นไปที่ 1,550 เหรียญ และหากผ่านไปได้อีก ก็จะมีโอกาสลุ้นระดับ 1,590 เหรียญ

· ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 3% แถว 18 เหรียญ ส่วนราคาแพลทินัมปรับสูงขึ้น0.5% แถว 953.31 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.5% แถว 1,614.00เหรียญ