• การลดดอกเบี้ยของเฟด กับผลกระทบต่อผู้บริโภค 5 ประการ

    18 กันยายน 2562 | Economic News
  

เฟดถูกคาดการณ์ว่าจะทำการปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% สู่กรอบ 1.75 – 2% ซึ่งจะเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของปีนี้ จากครั้งแรกในเดือน ก.ค. ที่ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2008 ขณะที่ทางเฟดระบุว่า การปรับลดดอกเบี้ยครั้งที่ผ่านมา เป็นการปรับไปเพื่อ “ป้องกันความเสี่ยง” ให้กับการเติบโตเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญแรงกดดันจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ปริมาณการลงทุนในภาคธุรกิจที่ลดลง และภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอตัว



สำหรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภคจากการลดดอกเบี้ยของเฟดมีอยู่ 5 ประการ ดังต่อไปนี้



1.สินเชื่อที่อยู่อาศัย

อัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัย หรือการกู้เงินจากธนาคารเพื่อซื้อบ้าน แม้จะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากอัตราดอกเบี้ยของเฟด แต่เมื่ออัตราดอกเบี้ยของเฟดลดลง ดอกเบี้ยเงินกู้เหล่านี้มักจะลดลงตามมา เมื่อประชาชนสามารถจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้บ้านที่ลดลงได้ กำลังซื้อของพวกเขาก็จะเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ 5% สำหรับการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านเป็นระยะ 30 ปี จะช่วยให้ครอบครัวที่มีการชำระเงินกู้ 1,000 ดอลลาร์ในแต่ละเดือน สามารถซื้อบ้านที่มีมูลค่า 186,282 ดอลลาร์ได้



2.เงินในบัญชีออมทรัพย์

แม้บรรดาธนาคารพาณิชย์มักจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยสำหรับบัญชีออมทรัพย์ค่อนข้างช้า แม้ว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงหลายปีที่ผ่านถึง 9 ครั้งก็ตาม แต่บรรดาธนาคารออนไลน์ที่มีการจ่ายดอกเบี้ยมากถึง 2% อาจพิจารณาลดดอกเบี้ยลงตามเฟด ซึ่งจะทำให้ประชาชนบางส่วนไม่ต้องการเก็บเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์เหล่านี้นานกว่า 1 ปี แต่ก็มีโอกาสที่เศรษฐกิจอาจเลี่ยงภาวะถดถอยไปได้ และอัตราดอกเบี้ยก็เริ่มปรับสูงขึ้นอีกครั้งเช่นกัน



3.บัตรเครดิต

ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยของบัตรเครดิตที่อยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ การลดดอกเบี้ยของเฟดลง 0.25% อาจไม่ช่วยผ่อนคลายภาระให้กับผู้เป็นหนี้บัตรเครดิตได้มากนัก แต่สำหรับผู้ที่ประวัติเครดิตดี อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงอาจช่วยประชาชนกลุ่มนี้สามารถเข้าถึงบัตรเครดิตที่คิดอัตราดอกเบี้ยเป็นศูนย์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถชำระหนี้บัตรเครดิตได้หมดง่ายยิ่งขึ้น



4.สินเชื่อรถยนต์

การลดดอกเบี้ยของเฟดน่าจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการกู้เงินซื้อรถยนต์ ยกตัวอย่างเช่น ดอกเบี้ยที่ลดลง 0.25% สำหรับการกู้ซื้อรถยนต์มูลค่า 25,000 ดอลลาร์เป็นระยะ 5 ปี จะช่วยให้มีเงินออมเพิ่มขึ้นประมาณ 3 ดอลลาร์ในแต่ละเดือน

นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงน่าจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเจรจาหาข้อตกลงที่ดีกว่าเดิมได้ ไม่ว่าจะป็นเรื่องของราคารถยนต์หรืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เนื่องจากบรรดาผู้ผลิตรถยนต์มักมีช่องว่างสำหรับการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยที่คิดกับผู้บริโภค เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายของรถยนต์ที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมของตลาด



5.ตลาดหุ้น

การหันมาปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีของเฟด ได้ช่วยให้ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไปเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ การตอบรับต่อการปรับลดดอกเบี้ยครั้งต่อไปของเฟด จะขึ้นอยู่กับว่าตลาดมีมุมมองต่อเศรษฐกิจในอนาคตเช่นไร หากตลาดมองว่าเฟดปรับลดดอกเบี้ยเพื่อเป็นหลักประกันว่าเศรษฐกิจจะสามารถเติบโตต่อได้ ตลาดหุ้นก็น่าจะปรับสูงขึ้นตามมา


ที่มา: Reuters

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com