· ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยน ท่ามกลางตลาดน้ำมันที่เริ่มฟื้นตัวจากภาวะความกังวลในอุปทาน แต่ตลาดส่วนใหญ่ระมัดระวังการลงทุนก่อนหน้าผลการประชุมเฟดในคืนนี้ ที่คาดกันว่าเฟดอาจมีการปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2
โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยนเคลื่อนไหวแถว 108.20 เยน/ดอลลาร์ ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ 108.37 เยน/ดอลลาร์
นักวิเคราะห์จาก Daiwa Securities มีมุมมองว่า ตลาดได้ตอบรับกับโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยไจนหมดแล้ว สิ่งที่ตลาดให้ความสนใจคือเฟดจะส่งสัญญาณผ่อนคลายในอนาคตมากแค่ไหน และเนื่องจากนักลงทุนมีการเปิดสถานะ Short ในค่าเงินดอลลาร์เป็นปริมาณมาก หากเฟดสร้างความประหลาดใจให้กับตลาด หรือไม่ผ่อนคลายเท่าที่ตลาดคาดหวัง ก็มีโอกาสที่จะเห็นค่าเงินดอลลาร์รีบาวน์ขึ้นได้ค่อนข้างรุนแรง
ค่าเงินปอนด์ค่อนข้างทรงตัวแถว 1.2487 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังจากที่ปรับขึ้นมาได้เมื่อวาน 0.6% จากการที่นักลงทุนลดการถือครองสถานะ Short ในค่าเงินลง แต่ความเชื่อมั่นในค่าเงินยังค่อนข้างอ่อนแอจากความไม่แน่นอนของประเด็น Brexit
ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวแถว 1.1605 ดอลลาร์/ยูโร ส่วนดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อย 0.03% แถว 98.288 จุด
· ท่ามกลางภาวะที่เศรษฐกิจเต็มไปด้วยสัญญาณของความไม่แน่นอนทั้งทางการเมืองและข้อมูลทางเศรษฐกิจ ล่าสุด หลังเกิดเหตุโจมตีในซาอุดิอาระเบียเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้ตลาดเข้าสู่ภาวะผันผวน และเปลี่ยนแปลงคาดการณ์เฟดปรับลดดอกเบี้ยหลังการประชุมคืนนี้ไปอย่างมีนัยสำคัญ ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน
ตลาดส่วนใหญ่ยังคงมีมุมมองว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยภายในปีนี้ แต่เรื่องของจังหวะหรือช่วงเวลายังมีความเห็นที่แตกต่างกันออกไปอย่างมาก
เมื่อเดือนก่อน ตลาดมองโอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. ไว้มากกว่า 90% แต่ล่าสุด ในวันนี้ ตลาดกลับมองโอกาสที่เฟดจะคงดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมาเป็น 50.4% เทียบกับโอกาสเฟดลดดอกเบี้ยที่ลดลงเหลือ 49.6% ตามข้อมูลจากเครื่อง Fedwatch tool ของ CME Group
สำหรับภาพรวมการปรับดอกเบี้ยของเฟดตลอดปีนี้ ตลาดมองโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ที่ 2.25% ไว้ที่ระดับ 15.9% ส่วนโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลง 1 ครั้งตลอดปีนี้อยู่ที่ 40.7% ตามมาด้วย 34.1% สำหรับ 2 ครั้ง และ 9.2% สำหรับ 3 ครั้ง
ปัจจัยที่ทำให้โอกาสเฟดลดกับคงดอกเบี้ยปรับมาเกือบเท่ากันมีอยู่ 2 ปัจจัย คือ 1) แม้เศรษฐกิจจะชะลอการเติบโตลงในปีนี้ แต่ไม่ได้มีสัญญาณของการเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ส่วนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ลดลง มักเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งมากกว่า และ 2) ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงาน อัตราค่าเงิน หรืออัตราว่างงาน ก็ไม่ได้บ่งชี้ถึงการที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยแต่อย่างใด
****สำหรับโอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยคืนนี้ ล่าสุดขยับขึ้นมาเป็น 56.5% ในช่วงเย็นวันนี้
· นายโทชิมิตสึ โมเทกิ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งญี่ปุ่น ระบุว่า ยังไม่มีแผนที่จะจัดการประชุมร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีของญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้แต่อย่างใด แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงการมีสื่อสารร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
· นายทาโร่ โคโนะ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแห่งญี่ปุ่นคนใหม่ ระบุว่า ทางญี่ปุ่นตรวจสอบไม่พบความเกี่ยวข้องกับระหว่างอิหร่านและการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดิอาระเบียแต่อย่างใด
ทั้งนี้ แม้ญี่ปุ่นจะคงความสัมพันธ์อันดีร่วมกับอิหร่านมาโดยตลอด นับตั้งแต่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯย่ำแย่ลง ทางญี่ปุ่นไม่สามารถให้ความร่วมมือทางการทหารได้ไม่ว่าจะในกรณีใดๆ แต่จะพยายามใช้วิธีทางการทูตเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นแทน
· สำนักประธานาธิบดีฝรั่งเศส ระบุว่า ฝรั่งเศสจะส่งผู้เชี่ยวชาญไปยังซาอุดิอาระเบียเพื่อให้ความร่วมมือสืบสวนเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นในโรงกลั่นน้ำมันของซาอุฯ ขณะที่นายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศศ กล่าวแสดงความไม่เห็นด้วยกับการโจมตีดังกล่าวอย่างรุนแรง พร้อมยืนยันว่าฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับความมั่นคงภายในตะวันออกกลางเป็นสำคัญ
· นายเดวิด มัลพาสส์ ประธาน World Bank ได้แสดงความเห็นว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัวลงมากกว่าที่ธนาคารโลกคาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น
โดยสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ World Bank คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.6%
สาเหตุส่วนใหญ่มาจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในประเทศจีน รวมทั้งความอ่อนแอของเศรษฐกิจในอาร์เจนตินา อินเดีย และเม็กซิโก ท่ามกลางการขยายตัวที่น่าผิดหวังของกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา
นอกจากนี้ หลายประเทศในยุโรปกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือใกล้จะถดถอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมนีและอังกฤษที่มีความเสี่ยงเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่อิตาลีและสวีเดนกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะงักงันขั้นรุนแรง
· ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงต่อจากเมื่อวาน หลังรัฐบาลซาอุดิอาระเบียออกมาสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดว่าการผลิตน้ำมันของประเทศจะกลับมาเต็มที่ภายในสิ้นเดือนนี้ แต่ตลาดน้ำมันยังคงอยู่ภาวะระมัดระวัง หลังรายงานจากสหรัฐฯระบุว่า การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันซาอุฯอาจมีที่มาจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่าน แม้อิหร่านจากออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องก็ตาม
ด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.2% แถว 64.40 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ปรับลดลง 6.5% เมื่อวานนี้
ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 0.6% แถว 58.99 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ปรับลดลง 5.7% เมื่อวานนี้