เหล่านักวิเคราะห์ ระบุว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนมีความเปราะบาง จากความไม่สงบในฮ่องกง ความตึงเครียดในตะวันออกกลางและความกังวลว่าสหรัฐฯและจีนเกี่ยวกับประเด็นการเจรจาทางการค้า
ท่ามกลางการเคลื่อนไหวในปริมาณต่ำเนื่องจากตลาดญี่ปุ่นปิดทำการในวันหยุดเนื่องในวันระลึกผู้ล่วงลับในวันนี้
โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 0.3%
· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรจีน เปิดเผยถึงการยกเลิกการเดินทางเยือนฟาร์มเกษตรของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ที่มีกำหนดการจะเยือนรัฐมอนทานา และรัฐเนแบรสกา ซึ่งการยกเลิกการเดินทางเยือนฟาร์มเกษตรดังกล่าว เกิดขึ้นท่ามกลางการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีนที่กรุงวอชิงตัน และหลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาต้องการข้อตกลงการค้าฉบับสมบูรณ์กับทางจีน ไม่เพียงแต่การที่จีนเข้าซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
โดยดัชนี Shanghai Composite ร่วงลง 1.4%
ขณะที่รัฐบาลอังกฤษประกาศดำเนินปฏิบัติการ Operation Matterhorn โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำชาวอังกฤษเดินทางกลับมายังประเทศ
โดยดัชนี Stoxx600 ลดลงประมาณ 0.7% ขณะที่ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ไทย เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามเฝ้าระวังการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าที่สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปใช้มาตรการต่อจีน ซึ่งมีการนำสินค้าจีนเข้ามาในไทยเพื่อส่งออกไปสหรัฐ รวมทั้งเฝ้าระวังบริษัทฯ ที่ยื่นขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศปลายทาง โดยอาจแอบอ้างประเทศไทยเป็นถิ่นกำเนิดสินค้า
ทั้งนี้ กรมฯ ได้เตรียมความพร้อมในการรับมือผลกระทบจากสงครามการค้า โดยใช้ฐานข้อมูลระบบตรวจพิสูจน์ถิ่นกำเนิดสินค้าและติดตามสถานณ์การนำเข้า เพื่อป้องกันการใช้ไทยเป็นฐานในการหลบเลี่ยงการถูกตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้า (Circumvention) และหากพบว่าสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐฯ ไม่ได้ถิ่นกำเนิดไทย กรมฯ จะจัดทีมเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบสถานประกอบการสินค้าอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อพิสูจน์ความถูกต้องของถิ่นกำเนิดสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐฯ และแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการออกหนังสือรับรองฯ รวมทั้งจะประสานกับศุลกากรสหรัฐฯ เพื่อดำเนินมาตรการกับผู้ประกอบการไทย และผู้นำเข้าสหรัฐฯ รายนั้นต่อไป
- น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนอิงทางลง จากปัจจัยภายนอกประเทศที่ยังกดดัน ทั้งเรื่องของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Sentiment ดูกังวลหลังจากที่คณะเจรจาจากประเทศจีนเดินทางกลับก่อนกำหนด, ราคาน้ำมันที่ผันผวน ซึ่งหากปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ให้ปรับตัวลงได้อีก, การประท้วงในฮ่องกงที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ก่อนเข้าสู่ช่วงของงานฉลองวันชาติจีนในวันที่ 1 ต.ค.นี้ และงบการเงินในไตรมาส 3/62 ของบริษัทจดทะเบียนไทย คาดว่าจะออกมาอ่อนตัวลง
- นักบริหารเงิน คาดว่าตลอดทั้งวันเงินบาทจะยังเคลื่อนไหว
ในกรอบแคบๆ เนื่องจากรอดูผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันพุธนี้ ว่าทิศทางเรื่องอัตราดอกเบี้ยจะออกมาอย่าง
ไร "ตัวเลขส่งออกเดือนส.ค.แม้จะออกมาติดลบ 4% แต่บาทยังไม่ได้อ่อนค่าลง เป็นเพราะเรายังเกินดุลการค้า ซึ่งบาทยังแข็ง
ค่าต่อเนื่อง คงต้องจับตาดูว่า กนง.รอบนี้ จะมีท่าทีอย่างไรที่จะช่วยเหลือผู้ส่งออกของไทยได้บ้าง"
- นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเปิดรับลงทะเบียนใช้สิทธิตามมาตราการชิมช้อปใช้ ผ่าน www.ชิมช้อปใช้.com ว่า ได้รับรายงานจากธนาคารกรุงไทย (KTB) ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. มีผู้มาลงทะเบียนใช้สิทธิแล้ว 8.8 แสนราย และคาดว่าอีกไม่เกิน 1 ชั่วโมง หรือประมาณ 14.00 น. จะมีผู้ลงทะเบียนในวันแรกครบ 1 ล้านราย เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะมีผู้มาลงทะเบียนวันละ 1 ล้านราย จากเป้าหมายของโครงการ 10 ล้านราย
อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังยืนยันว่าจะไม่มีการขยายจำนวนผู้เข้าร่วมมาตรการต่อวัน เพราะมองว่าจำนวน 1 ล้านรายต่อวันเป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว