· ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัว ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ยังคงรอความคืบหน้าของการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ขณะที่ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำ
ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัวแถว 1,516.33 เหรียญ โดยราคาปรับขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ที่ระดับ 1,516.81 เหรียญ ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
ด้านราคาสัญญาทองคำส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับสูงขึ้น 0.59% แถว 1,523.80 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก OCBC มีมุมมองว่า แม้ราคาจะได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และสัญญาณของการเจรจาการค้าที่ดำเนินไปได้ไม่ค่อยดีนัก แต่ในภาพรวมราคากำลังเคลื่อนไหวอยู่ในแดนผสมผสาน
· มุมมองต่อการเจรจาการค้าดูจะหม่นหมองลง หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า เขาไม่ได้ต้องการทำข้อตกลงเพียงแค่ “ส่วนเดียว” ขณะที่ทางจีนยกเลิกทริปเยี่ยมชมการเกษตรของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายต้องมีรายงานถึงความคืบหน้าที่ดีของการเจรจาการค้า “ที่ดีและมีความคืบหน้า” ตามมาในภายหลัง วึ่งดูเหมือนจะเป็นความพยายามสร้างความมุมมองเชิงบวกก่อนถึงการเจรจาครั้งสำคัญในเดือน ต.ค.
· ในขณะที่ทางฝั่งตะวันออกกลาง ความตึงเครียดยังคงอยู่ในระดับสูง หลังจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯส่งกำลังเสริมลงไปเพิ่มในพื้นที่เพื่อช่วยเสริมกำลังป้องกันขีปนาวุธทางอากาศให้กับซาอุดิอาระเบีย หลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ต้องสงสัยว่าเป็นฝีมืออิหร่าน พร้อมกันนี้ ยังมีการประกาศคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม รวมไปถึงมาตรการลงโทษธนาคารกลางของอิหร่าน
ทางซาอุฯน่าจะมีการเรียกร้องความช่วยเหลือจากนานาชาติในระหว่างการประชุม U.N. ณ กรุงนิวยอร์ก สัปดาห์นี้ เพื่อขอความร่วมมือจากบรรดาผู้นำประเทศในการร่วมกันป้องกันและกดดันอิหร่าน
· นักวิเคราะห์จาก OANDA มีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีแรงหนุนในฐานะ Safe-haven อยู่ แต่ดูเหมือนราคาจะติดอยู่ในกรอบระหว่าง 1,480 – 1,550 เหรียญ
· ด้านค่าเงินดอลลาร์ ค่อนข้างทรงตัวในช่วงตลาดเอเชียวันนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ต่างปรับตัวลดลง
· ขณะที่กองทุน SPDR เพิ่มการถือครองทองคำขึ้น 1.19% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สู่ระดับ 894.15 ตัน
· ในตลาด COMEX บรรดานักลงทุนและนักบริหารเงินต่างเพิ่มการถือครองสถานะ Long ในทองคำ 14,150 สัญญา สู่ระดับ 261,878 สัญญา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
· ราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นไม่ได้มากนัก และยังค่อนข้างทรงตัวอยู่ต่ำกว่าเส้นแนวต้านระยะสั้นในช่วงต้นตลาดวันจันทร์นี้
ปัจจัยที่เป็นความตึงเครียดทางการเมืองคือกรณีความขัดแย้งในซาอุดิอาระเบีย หลังมีรายงานว่า ซาอุฯส่งสัญญาณจะกลายเป็นสงครามหากเกิดการโจมตี ขณะที่สหรัฐฯส่งกำลังเสริมลงพื้นที่ตะวันออกกลางมากขึ้น โดยอ้างว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อ ”ป้องกันและกดดัน”
ส่วนประเด็ฯความตึงเครียดทางการค้า เกิดขึ้นหลังรายงานที่ว่า ตัวแทนจีนเดินทางออกจากที่ประชุมก่อนกำหนด และยกเลิกการเยี่ยมชมการเกษตรของสหรัฐฯ ตลาดจึงมีการตอบรับข่าวดังกล่าวในแดนลบ แม้ว่าทางสื่อของแต่ประเทศจะพยายามเลี่ยงการรายงานถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่าการเจรจามีความคืบหน้าที่ดีแทน ซึ่งน่าจะทำไปเพื่อให้การเจรจาครั้งสำคัญในช่วงต้นเดือน ต.ค. ดำเนินไปด้วยสัญญาณที่ดีแทน
Technical Analysis
ราคาทองคำต้องยืนเหนือแนวต้านระยะสั้นที่ 1,517 เหรียญได้อย่างมั่นคงก่อน ถึงจะมีโอกาสปรับขึ้นต่อได้ และจะมีโอกาสขึ้นทดสอบระดับ 1,534 เหรียญ ตามมาด้วยระดับ 1,557 เหรียญ ในขณะที่แนวรับจะอยู่ที่ระดับ 1,500 เหรียญ และ 1,480 เหรียญตามลำดับ
· ราคาทองคำกลับสู่ภาวะขาขึ้นได้อีกครั้งหลังจากที่ฝ่าแนวรับขึ้นมา อันเป็นผลจากภาวะความตึงเครียดทางการเมืองและสงครามการค้า โดยสัปดาห์นี้มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นราทองคำเคลื่อนไหวได้ 2 กรณี
1. หากราคาปิดเหนือแนวรับและผ่าน 1,527 เหรียญไปได้ ก็มีโอกาสไต่ขึ้นมาที่ 1,541 เหรียญ และหากฝ่าไปได้ก็มีโอกาสเห็นทองคำปรับขึ้นมาที่ 1,554 เหรียญ
2. นักลงทุนที่ถือ Short อาจเข้าถือสถานะได้บางส่วน แต่ก็ควรลดหลังจากที่ราคา Breakout ออกจากกรอบด้านล่างขึ้นมา
มุมมองขาขึ้น: ราคาทองคำยังคงเป็นทิศทางขาขึ้นได้หลังจากที่ยืนเหนือ 1,500 เหรียญอีกครั้ง และมีสัญญาณของ Bullish Trend หลังจากที่เฟดยังคงเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมที่ผ่านมาพร้อมกับโอกาสที่อาจเห็นเฟดลดดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งได้ในปีนี้ และสิ่งที่จะตามมาคือการเห็นดอลลาร์อ่อนค่ากลายมาเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของความตึงเครียดทั่วโลก ที่มาควบคู่กับแรงสนับสนุนทางเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นจาก Moving Average หรือแพทเทิร์นกราฟ ที่ดูจะมีโอกาสเห็นทองคำเข้าใกล้ 1,800 เหรียญ
มุมมองขาลง: ก็ยังคงไม่สดใส เนื่องจากภาพหลักดูจะเป็นขาขึ้นได้มากกว่า
ภาพระยะยาว: ทองคำยังคงเป็นทิศทางขาขึ้นและมีโอกาสจะปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อ
· ผู้อำนวยการจาก Metalla Royalty & Streaming ผู้ที่เคยคาดว่าปีนี้จะเห็นทองคำไปแตะ 1,500 เหรียญ แล้วก็ปรับขึ้นมาได้จริงๆ ก็ดูจะมีมุมมองใหม่ต่อซิลเวอร์ โดยคาดว่าจะเห็นซิลเวอร์ปรับขึ้นแตะ 20 เหรียญได้ในอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า หรือปรับขึ้นได้อีก 12% ในช่วงเวลา 8 สัปดาห์
· ผลสำรวจจาก Kitco สะท้อนมุมองว่าเสียงส่วนใหญ่ของนักลงทุนกว่า 47% และผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองกว่า 59% ยังมองทองคำเป็นขาขึ้นได้อยู่ นำโดยประธานการลงทุนจาก Phoenix Futures and Options ที่เชื่อว่า มูลค่าของการใช้อัตราดอกเบี้ยเชิงลบกว่า 17 ล้านล้านเหรียญ ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนของทางยุโรปจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำ และทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นได้ โดยจะเห็นได้ว่าราคาทองคำถูกเทขายเมื่อปรับขึ้นไปแถว 1,520 เหรียญ แต่ก็ไม่อาจหลุดบริเวณ 1,480 เหรียญได้และมีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างรวดเร็วจนราคาขึ้นมาต่อเนื่องในเวลานี้
และบรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็เชื่อว่าจะยังเห็นทองคำเป็นขาขึ้นได้อยู่ในสัปดาห์นี้ จากความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน
นักวิเคราะห์จาก MKS SA ไม่คิดว่าจะเห็นการทำ Short ในเวลานี้ พร้อมเชื่อว่าจะเห็นทองคำเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นในกรอบ 1,480 - 1,520 เหรียญ
นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าการที่ทองคำยังคงยืนได้เหนือ 1,500 เหรียญ มาจากการที่เฟดตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยเมื่อวันพุธ และคาดว่าจะเห็นเฟดลดดอกเบี้ยลงอีกตลอดจนปี 2020
แต่นักวิเคราะห์บางคนก็เชื่อว่าการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่จะทำให้เฟดต้องเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้ง
· นักวิเคราะห์จาก DailyFX คาดว่า ราคาทองคำมีการฟอร์มตัวเป็น Head and Shoulder แบบ Bearish ซึ่งหากทองคำกลับหลุดปิดต่ำกว่า 1,480 เหรียญ ก็อาจเห็นทองคำลงมาแถว 1,400 เหรียญได้ โดยแนวรับด้านล่างของทองคำจะอยู่ที่ 1,437.7 - 1,452.95 เหรียญ ในขณะที่แนวต้านด้านบนจะอยู่ที่ 1,523.05 เหรียญ หากผ่านไปได้จับตาระดับสำคัญของภาพรายสัปดาห์ที่ 1,563 เหรียญ