· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นได้จากหุ้นบริษัท Apple ที่ช่วยชดเชยความผสมผสานของข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันกลุ่มนักลงทุนก็มีท่าทีระมัดระวังต่อความยืดเยื้อของสงครามการค้าสหรัฐฯและจีน
ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 14.92 จุด หรือ +0.06% ที่ระดับ 26,949.99 จุด ทางด้านดัชนี S&P500 ปิด -0.01% ที่ระดับ 2,991.78 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.06% ที่ระดับ 8,112.46 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลง ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ตอบรับกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาแย่กว่าที่คาด โดยดัชนี Stoxx600 ปิด -0.8% โดยความเชื่อมั่นในตลาดค่อนข้างเปราะบาง หลังกิจกรรมภาคธุรกิจของเยอรมนีสะท้อนความวิตกกังวลถึงภาวะถดถอย
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ถูกกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปวานนี้ โดยดัชนีนิกเกอิเปิด +0.34% ในขณะที่ดัชนี Topix เปิด +0.64%
ทางด้านดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิดทรงตัว ท่ามกลางดัชนี S&P/ASX200 เปิด +0.12%
ภาพรวมดัชนี MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นเปิด +0.06%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.40-30.55 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดยังรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธที่ 25 ก.ย.นี้ ว่าจะมีมติเรื่องดอกเบี้ยนโยบายอย่างไร
ทั้งนี้ ตลาดยังเชื่อว่ารอบนี้ กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไวในระดับเดิมที่ 1.50% แต่คงต้องรอดูว่าจะมีการออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปอย่างไร
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.35-30.75 บาทต่อดอลลาร์ โดยนักลงทุนจะให้ความสนใจกับรายงานจีดีพีของสหรัฐฯ สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนและความคืบหน้า Brexit นอกจากนี้ตลาดจะจับตาภาวะสภาพคล่องสำหรับการระดมทุนระยะสั้นในสหรัฐฯ หลังอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมช่วงข้ามคืนระหว่างธนาคารในสัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้นเหนือกรอบเป้าหมายดอกเบี้ยที่เฟดกำหนดไว้ สำหรับปัจจัยภายในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.50% ด้วยเสียงไม่เป็นเอกฉันท์ในการประชุมวันที่ 25 ก.ย.
- ธนาคารกรุงไทย (KTB) เผยโครงการ"ชิม ช้อป ใช้" ประชาชนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม เกินความคาดหมายสำหรับวันพรุ่งนี้ (24 ก.ย.) ซึ่งเป็นวันที่สองที่เปิดให้ลงเบียนเข้ามาร่วมโครงการ ธนาคารมั่นใจว่าจะสามารถรองรับประชาชนที่เข้ามาลงทะเบียนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งถือว่าการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการชิมช็อปใช้ของประชาชนถือว่าได้การตอบรับมากกว่าที่ธนาคารคาดคิดไว้ โดยในส่วนของระบบรอคิวการลงทะเบียน จะเปิดให้รอคิวได้เต็มที่ 200,000 ราย/ชั่วโมง
- รมว.คลังไทย เปิดเผยถึงการลงทะเบียนใช้สิทธิตามมาตราการชิมช้อปใช้ ผ่าน www.ชิมช้อปใช้.com ว่ากระทรวงการคลังยืนยันว่าจะไม่มีการขยายจำนวนผู้เข้าร่วมมาตรการต่อวัน เพราะมองว่าจำนวน 1 ล้านรายต่อวันเป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว อย่างไรก็ดี ได้มอบแนวทางให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปพิจารณาขยายวันในการรับสมัครร้านค้าเพื่อเข้าร่วมโครงการ จากปัจจุบันมีร้านค้าเข้าร่วมมาตรการแล้วทั้งสิ้น 1.5 แสนร้านค้า โดยคาดว่าจะขยายเวลาให้ร้านค้ามาร่วมลงทะเบียนถึงวันที่ 15 ต.ค.นี้
- นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่ากลุ่มธุรกิจบริหารทรัพย์สิน รักษาการผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อธิบดีกรมขนส่งทางราง และ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรว่า ที่ประชุมมีมติให้คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) จัดประชุมในวันที่ 27 ก.ย. 62 เวลา 16.00 น. และให้ทำหนังสือแจ้งให้กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (ซีพี) และพันธมิตร (กลุ่ม CPH) มาลงนามในสัญญาในวันที่ 15 ต.ค. 62 แต่หากไม่ลงนามในสัญญาจะถูกริบหลักประกันซอง และอาจถูกพิจารณาเป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบของทางราชการ และจะเชิญผู้ยื่นข้อเสนอรายที่ 2 มาเจรจาต่อไป