· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ข้อมูลกิจกรรมภาคบริการของสหรัฐฯปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 3 ปี จุดกระแสเฟดน่าจะเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจขาลง โดยตลาดหุ้นรีบาวน์กลับได้หลัง FedWatchของ CME เผยว่า การประชุมเดือนนี้มีโอกาส 90% ที่จะเห็นเฟดลดดอกเบี้ย จากโอกาสที่ระดับ 40%
อย่างไรก็ดี คืนนี้ตลาดรอคอยข้อมูลจ้างงานภาครัฐบาลสหรัฐฯที่จะเป็นหลักฐานบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจตัวต่อไป ท่ามกลางปัญหา Trade War ระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ดูจะกดดันการเติบโของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ดัชนีดาวโจนส์ปิด +0.47% ที่ระดับ 26,201.04 จุด ขณะที่ S&P500 ปิด +0.8% ที่ระดับ 2,910.63 จุด
ดัชนี Nasdaq ปิดปรับขึ้น 1.12% ที่ระดับ 7,872.27 จุด
· ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวเบาบาง เนื่องจากเหล่านักลงทุนรอคอยการประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯประจำเดือนก.ย.ในคืนนี้
โดยเช้านี้ดัชนี Nikkei ลดลง 0.22% ขณะที่ดัชนี Topix ลดลง 0.34% ด้านดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ลดลง0.32%
ตลาดฮ่องกงให้ความสนใจไปยังรายงานที่ว่ารัฐบาลฮ่องกงกำลังพิจารณามาตรการฉุกเฉินซึ่งจะรวมถึงการห้ามผู้ประท้วงสวมหน้ากาก ในความพยายามเพื่อหยุดยั้งการประท้วงที่สั่นคลอนเกาะฮ่องกงมาตั้งแต่เดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีนยังคงปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ
· อ้างอิงสำนักข่าวอินโฟเควสท์
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไว้ที่ระหว่าง เบื้องต้นประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทระหว่าง 30.35-30.70 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนรอดูตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯคือ การจ้างงานนอกภาคเกษตรคืนนี้ นอกจากนี้ยังต้องติดตามปัจจัยเรื่องสงครามการค้าและ Brexit
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้หารือถึงแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยสั่งการให้กระทรวงการคลัง, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสถาบันการเงิน เฉพาะกิจของรัฐ วางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเน้นให้การท่องเที่ยวเป็นตัวชูโรง รวมถึงเร่งขยายโครงการชิมช้อปใช้ ภาค 2 ให้ครอบคลุมไปถึงเศรษฐกิจในระดับชุมชนด้วย
- ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายการกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ร่วมกับสถาบันการเงิน สภาวิชาชีพบัญชีฯ และผู้สอบบัญชี ผลักดันการใช้มาตรฐานการบัญชีสำหรับเครื่องมือทางการเงิน (Thai Financial Reporting Standard: TFRS 9) เพื่อให้งบการเงินของสถาบันการเงิน สะท้อนความเสี่ยงด้านเครดิตของลูกหนี้ ส่งผลให้การรับรู้
สำรองเร็วขึ้นตามสถานะของลูกหนี้ที่เปลี่ยนแปลงไป และสะท้อนฐานะการเงินที่แท้จริงของสถาบันการเงินอย่างทันการณ์ รวมทั้งสามารถเปรียบเทียบได้ในระดับสากล โดย ธปท. เชื่อมั่นว่าสถาบันการเงินมีความพร้อม ทั้งด้านระบบงาน ฐานข้อมูล บุคลากร และกระบวนการปฏิบัติงาน เพื่อรองรับ TFRS 9 ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 63