· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับค่าเงินเยนและ ไปทำต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร จากกลุ่มนักลงทุนที่ตอบรับกับข้อมูลเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นภาคการผลิตหรือการบริการของสหรัฐฯที่ชี้ถึงสภาวะหดตัว และอาจยิ่งกดดันให้เฟดจำต้องเดินหน้าทยอยปรับลดดอกเบี้ย
ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงมา 0.3% ที่ระดับ 106.88 เยน/ดอลลาร์ หลังไปทำต่ำสุดรอบ 4 สัปดาห์ที่ 106.49 เยน/ดอลลาร์ เมื่อทราบรายงานภาคบริการสหรัฐฯ
ด้านดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 0.2% ที่ระดับ 98.86 จุด ทางด้านยูโรแข็งค่าขึ้นอีก 0.1% ที่ 1.0969 ดอลลาร์/ยูโร หลังไปทำแข็งค่ามากที่สุดรอบ 1 สัปดาห์บริเวณ 1.0999 จุด
ภาพรวมกลุ่มนักลงทุนกำลังรอคอยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯที่จะประกาศในคืนนี้ เพื่อยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างที่กังวลกันอยู่หรือไม่
รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาแย่ดูเหมือนจะทำให้โอกาสที่จะเห็นเฟดปรับลดดอกเบี้ยมากขึ้นเป็นโอกาสที่ 92.5% จากระดับ 77% ในวันก่อน
ค่าเงินปอนด์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.6% ที่ระดับ 1.2365 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังจากที่บรรดาส.ส.ของรัฐสภาอังกฤษมีความเป็นไปได้ที่จะยอมรับข้อเสนอของข้อตกลงฉบับล่าสุด
· สถาบันจัดการด้านอุปทานหรือ ISM เผยกิจกรรมภาคการผลิตปรับตัวลงแตะ 56.2 จุดในเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ส.ค. ปี 2016 และข้อมูลล่าสุดดูจะยิ่งเพิ่มความกังวลที่ตามมากับข้อมูลกิจกรรมภาคการผลิตสหรัฐฯในช่วงต้นสัปดาห์ที่เผยถึงภาวะหดตัวลงทำต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี ในขณะที่ภาคการจ้างงานเอกชนเดือนส.ค. ก็ดูจะไม่สดใสอย่างที่คาด
ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯดูจะทำให้เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ล่าสุดชี้ว่า มีโอกาสเพิ่มขึ้นที่ 90% ที่จะเห็นเฟดตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยจากคาดการณ์โอกาสเดิมแถว 40% ในวันก่อนหน้า
บรรดาเทรดเดอร์กำลังคาดหวังว่าเฟดน่าจะทำการปรับลดดอกเบี้ยได้อีกเป็นจำนวน 2 ครั้งในช่วงสิ้นปีนี้
· สถาบันยอดค้าปลีกสหรัฐฯ หรือ NRF กล่าวว่า ยอดขายสินค้าช่วงวันหยุดของสหรัฐฯในปีนี้ถูกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ว่าภาคค้าปลีกอาจอ่อนตัวลงไปบ้างจากความกังวลการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางปัญหา Trade War ระหว่างสหรัฐฯและจีน
ยอดขายในปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ราว 3.8-4.2% สู่กรอบ 7.279 – 7.307 แสนล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับยอดขายปีที่แล้วที่อยู่ที่ระดับ 2.1% มูลค่า 7.012 แสนล้านเหรียญ
และคาดการณ์ดังกล่าวที่มาในช่วงเริ่มต้นไตรมาสที่ 4 ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจบางส่วนที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯนั้นกำลังมีการปรับลงสู่ภาวะขาลง
· นายอดัม ชิฟฟ์ ประธานคณะกรรมาธิการหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีการร้องขอให้จีนทำการสืบสวน นายโจ ไบเดิน อดีตรองประธานาธิบดีด้วย ซึ่งถือเป็นการละเมิดและฝ่าฝืนต่อคำสาบานตนในการเข้ารับตำแหน่งของเขา
ขณะที่นายทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวว่า จีนมีการเริ่มต้นกระบวนการสอบสวนนายไบเดิน เนื่องจากเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในจีน ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นที่ยูเครนเท่านั้น ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวก็ดูไม่ชัดเจนว่า นายทรัมป์เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจีนมีความเชื่อมโยงกับนายไบเดนหรือไม่
นอกจากนี้ นายทรัมป์ ยังมีการประนามสมาชิกระดับสูงของพรรคเดโมแครตส์ ที่อยู่ในสภาผู้แทนสหรัฐฯ โดยมีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย ในการกล่าวหาแกนนำหลายคนของเดโมแครตส์ว่า ไม่ซื่อสัตย์ และเป็นกบฏ ซึ่งการตำหนิดังกล่าวของนายทรัมป์มีขึ้น หลังจากพรรคเดโมแครตส์ขู่ว่า จะออกหมายเรียกไปยังทำเนียบขาวในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ส่งมอบเอกสารทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับกรณีทรัมป์กดดันยูเครน ให้สอบสวน “นายโจ ไบเดน” อดีตรองประธานาธิบดีพรรคเดโมแครตส์ โดยกรณีนี้กำลังถูกเปิดการไต่สวนอย่างเป็นทางการโดยพรรคเดโมแครตส์ เพื่อนำไปสู่การถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
คำขู่ของเดโมแครตส์ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากเดโมแครตส์กล่าวหาทำเนียบขาว ขัดขวางการไต่สวนของสภาผู้แทน และปฏิเสธคำขอของเดโมแครตส์ ที่ขอรายละเอียดเทปเสียงโทรศัพท์ ระหว่างทรัมป์กับผู้นำยูเครน รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จาก นายมิค มัลวานี่ย์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว
· นายวิลเบอร์ รอส รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เผยว่า สหรัฐฯและอินเดียอาจบรรลุข้อตกลงการค้ากันได้อย่างรวดเร็ว หากว่าอินเดียมีการดำเนินการอย่างหนักแน่นและเด็ดขาด
· รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ผลสำรวจจากบรรดา 6,600 บริษัทแสดงให้เห็นถึงยอดขายในภาคการผลิตที่ลดลงอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ปี 2011 และเป็นสัญญาณถึงกิจกรรมภารคธุรกิจอังกฤษหดตัวลงในไตรมาสที่ 3 โดยเฉพาะในภาคการผลิต หลังจากที่ผลสำรวจชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษกำลังเผชิญกับวิกฤต Brexit และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
· นายฌ็อง คอล์ด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการอียู เผยว่า ยังคงมีหลายประเด็นที่เป็นปัญหาสำหรับข้อเสนอ Brexit จากทางอังกฤษล่าสุด ดังนั้น การหารือจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากขึ้น และยอมรับว่าข้อเสนอดังกล่าวยังไม่ได้มีการประชุมเรื่ององค์ประกอบต่างๆ ยังมีประเด็นที่แก้ได้ยากอย่างปัญหาพรมแดน, หรือการจัดการส่วนเหนือและใต้ รวมทั้งเศรษฐกิจของเกาะทั้งหมด รวมทั้งการปกป้องตลาดเดี่ยวของอียู รวมทั้งไอร์แลนด์
· กลุ่มผู้ผลิตชีสของยุโรปตำหนิสงครามการค้าล่าสุด หลังจากที่สหรัฐฯจะทำการขึ้นภาษีสินค้าอีก 25% เพื่อตอบโต้กรณีที่ยุโรปมีการจ่ายเงินอุดหนุนบริษัทแอร์บัสอย่างผิดกฎหมาย
สภาวะความท้อแท้และความกังวลมีขึ้นหลังจากที่ WTO มีคำตัดสินให้สหรัฐฯสามารถลงโทษอียูได้ด้วยการขึ้นภาษีในวงเงิน 7.5 พันล้านเหรียญ
· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลง โดยในช่วงต้นไปทำต่ำสุดรอบเกือบ 2 เดือนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ
น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับลง 19 เซนต์ ที่ 52.45 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 2 เซนต์ ที่ระดับ 57.71 เหรียญ/บาร์เรล