• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 7 ตุลาคม 2562

    7 ตุลาคม 2562 | Gold News


· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกำลังรอคอยการกลับมาเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่จะเกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้ แต่สัญญาณบ่งชี้ว่าการเจรจาอาจไม่ประสบความสำเร็จก่อนการเจรจาจริง

โดยราคาทองคำปรับสูงขึ้น 0.1% แถว 1,505.38 เหรียญ ขณะที่ราคาทองคำในสัปดาห์ก่อนปิดตลาดในแดนบวก 0.5% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

ด้านราคาสัญญาทองคำปรับลดลง 0.1% แถว 1,511.00 เหรียญ

· การเจรจาการค้าระหว่างตัวแทนสหรัฐฯและจีนจะจัดขึ้น ณ กรุงวอชิงตัน วันที่ 10 – 11 ต.ค. นี้ แต่ความหวังว่าจะเห็นข้อตกลงจากากรเจรจากลับลดน้อยลง หลังมีรายงานว่า จีนต้องการลดขอบเขตของหัวข้อการเจรจาครั้งนี้ลง

· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets มีมุมมองว่า การที่จีนต้องการลดขอบเขตของการเจรจาลง เป็นสัญญาณของความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจีนดูจะมีความลังเลในการทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ จึงส่งผลให้ตลาดมีความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบด้วยอัตราที่น้อยกว่า 100 เหรียญ หากราคาจะสามารถหลุดออกจากกรอบนี้ จำเป็นต้องมีปัจจัยสำคัญมากระตุ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจมาจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินของบรรดาธนาคารกลาง

· การประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ พบว่าการจ้างงานและอัตราค่าจ้างต่างชะลอตัวลง ขณะที่อัตราว่างงานปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี แต่ตลาดก็ยังมีความเชื่อมั่นว่าเฟดจะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 29 – 30 ต.ค. นี้เช่นเดิม

· ขณะเดียวกัน ปริมาณการถือทรัพสินย์สำรองของธนาคารกลางจีนปรับลดลงมากกว่าที่คาดในเดือน ก.ย. ท่ามกลางเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวลงและยังมีความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้า

· นักวิเคราะห์จากเทคนิคจาก Reuters คาดการณ์ว่า ราคาทองคำอาจปรับลงทดสอบแนวรับที่ระดับ 1,488 เหรียญ หากหลุดลงมาจะมีโอกาสย่อตัวลงไปถึงบริเวณ 1,446 – 1,462 เหรียญ

· ราคาทองคำยืนเหนือระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,500 เหรียญ

นักวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่า ราคาทองคำเปิดตลาดสัปดาห์นี้ค่อนข้างทรงตัวแถวระดับ 1,508.60 – 1,509.39 เหรียญ ท่ามกลางตลาดจีนและออสเตรเลียที่ปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ โดยปัจจัยที่ตลาดจะให้ความสำคัญเป้นอันดับแรกในสัปดาห์นี้ คือทิศทางการเจรจาการค้าของสหรัฐฯและจีน ที่จะกลับมาเจรจาในวันพฤหัสบดีนี้

อย่างไรก็ตาม ได้เกิดสัญญาณในเชิงลบตั้งแต่ยังไม่เริ่มเจรจา หลังรายงานจาก Bloomberg ระบุว่า นายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีน กล่าวกับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลว่า การเจรจาที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ จีนจะไม่ยอมเจรจาในประเด็นที่ทำให้การเจรจาครั้งก่อนๆยืดเยื้อ โดยเฉพาะเรื่องของการปฏิรูปนโยบายทางการค้าหรืออุตสาหกรรมของประเทศ

สำหรับปัจจัยอื่นๆที่ตลาดจะจับตาในสัปดาห์ ได้แก่ ถ้อยแถลงของประธานเฟด และประธานเฟดสาขาต่างๆ รวมถึงการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ



Gold levels

จากการที่ราคาสามารถกลับมายืนเหนือระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,500 เหรียญได้ ทำให้ทิศทางระยะสั้นมีโอกาสปรับขึ้น โดยมีเป้าหมายที่ 1,520 เหรียญ และถัดไปที่ 1,535 เหรียญ ในทางกลับกัน หากราคาย่อตัวหลุดระดับ 1,500 เหรียญ จะทำให้ราคามีโอกาสร่วงลงไปถึงระดับ 1,460 – 1,470 เหรียญ

· Daily FX คาดราคาทองคำปลายปี 2019 ยังเป็นขาขึ้นจากความแตกแยกของเฟด

ราคาทองคำในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ได้ขึ้นทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2013 ที่ระดับ 1,557 เหรียญ แม้ราคาจะย่อตัวลงมาแถว 1,500 เหรียญในช่วงต้นสัปดาห์นี้ แต่นักวิเคราะห์จาก Daily FX ประเมินว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่จะกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นได้ในช่วงปลายปี 2019 เนื่องจากนักลงทุนจะหันมาถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์

สำหรับโอกาสที่ค่าเงินดอลลาร์จะเคลื่อนไหวผันผวน มาจากแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด โดยบรรดาสมาชิกเฟดคาดการณ์ว่าจะเห็นอัตราดอกเบี้ยปรับลงมาอยู่บริเวณ 1.50 – 1.75% ก่อนเข้าสู่ปี 2020

อย่างไรก็ตาม เริ่มมีสัญญาณของความคิดเห็นที่แตกแยกกันภายในคณะกรรมการเฟด ยกตัวอย่างเช่น นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนหลุยส์ ที่ได้เปิดเผยว่าเขาสนับสนุนให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 0.50% ในการประชุมเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้ และนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน กลับสนับสนุนให้เฟดดอกเบี้ย

ความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วของคณะกรรมการเฟด อาจเป็นปัจจัยที่กดดันให้ตลาดกังวลกับโอกาสเกิดความผันผวนในค่าเงินดอลลาร์ ดังนั้น นักลงทุนจะหันเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยที่ไม่ใช่ค่าเงินอย่างทองคำแทน จึงมองว่าราคาทองคำมีโอกาสเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น จากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง และความเป็นไปได้ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะกลับมาเคลื่อนไหวแบบผกผัน (Inverting yield curve)

· ราคาแพลทินัมปรับสูงขึ้น 0.3% แถว 878.87 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์ปรับลดลง 0.1% แถว 17.54 เหรียญ และราคาพลาเดียมทรงตัวแถว 1,665.67 เหรียญ

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com