· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเที
ยบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลี
ยและนิวซีแลนด์แข็งค่าหลังมี
รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกั
บการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-
จีน ที่ระบุว่า สหรัฐฯกำลังพิจารณาเสนอข้
อตกลงด้านอัตราแลกเปลี่ยนร่วมกั
บจีน ซึ่งอาจช่วยให้กำหนดการขึ้นภาษี
ในสัปดาห์ถูกเลื่อนออกไปได้
· ขณะที่นักวิเคราะห์จาก MUFG มีมุมมองว่า ข้อตกลงด้านสกุลเงิน หากประสบความสำเร็จ จะช่วยเปิดทางไปสู่การทำข้
อตกลงอื่นๆที่สำคัญยิ่งกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคุ้
มครองทรัพย์สินทางปัญญาหรื
อการบังคับโอนเทคโนโลยี ประกอบกับรายงานที่ว่า จีนได้เสนอจะเข้าซื้อสินค้
าการเกษตรจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้นก่
อนหน้าการเจรจา จึงถือเป็นสัญญาณที่ค่อนข้างดี
· ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่า 0.3% เคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์แถว 98.845 จุด ขณะค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลี
ยและนิวซีแลนด์
ด้านค่าเงินหยวนแข็งค่า 0.3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แถว 7.1145 หยวน/ดอลลาร์
ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.3% แถว 1.2241 ดอลลาร์/ปอนด์ แต่ยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับประเด็น Brexit
· นักวิเคราะห์จาก Danske Bank แนะนำให้นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างตัวแทนจากสหรัฐฯและจีน ที่มีกำหนดการเจรจาภายในวันนี้จนถึงพรุ่งนี้ โดยจะเป็นการเจรจาในระดับ High-level รอบที่ 13
ทั้งนี้ เชื่อว่ายังมีโอกาสค่อนข้างดีที่จะเห็นข้อตกลงชั่วคราวระหว่างทั้งสองฝ่าย เมื่อพิจารณาจากรายงานข่าวเมื่อวานนี้ ที่ทางรัฐบาลจีนระบุว่า พวกเขาพร้อมที่จะทำข้อตกลงบางส่วนกับสหรัฐฯ แม้จะเผชิญการลงบัญชีดำอยู่ก็ตาม ขณะที่ทางสำนักข่าว Financial Times ระบุว่า จีนได้เสนอจะเข้าซื้อเมล็ดถั่วเหลืองของสหรัฐฯเป็นปริมาณ 10 ล้านตัน แลกกับการที่สหรัฐฯยกเลิกภาษี แม้จะยังไม่มีความแน่นอนว่าผลลัพธ์ของการเจรจาจะออกมาในลักษณะใด แต่น่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นภายในวันศุกร์นี้
อีกปัจจัยหนึ่งที่น่าจับตาคือ รายงานการประชุมอีซีบี ที่น่าจะเห็นความแตกแยกภายในคณะกรรมการอีซีบี โดยเฉพาะหลังการจากลาออกของนาง Sabine Lautenschläger หนึ่งในสมาชิกบอร์ดบริหาร รวมถึงในช่วงที่ผ่านมา นายฟิลลิป เลน หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ เปิดเผยมุมมองว่า ทางอีซีบียังไม่ได้ประกาศนโยบายผ่อนคลายแบบจริงๆจังๆ จึงเชื่อว่าทางอีซีบีจะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีก
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้ ต้องจับตาการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer price index) ที่คาดว่าจะออกมาทรงตัวตามคาดการณ์ส่วนใหญ่ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะออกมาในระดับต่ำที่ราวๆ 220,000 ตำแหน่ง บ่งชี้ถึงการจ้างงานที่ยังแข็งแกร่ง แม้เศรษฐกิจจะมีความเสี่ยงของการชะลอตัวก็ตาม
ส่วนประเด็น Brexit ภายในวันนี้ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีกำหนดการจะพบกับนายลีโอ วาราดคาร์ นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ แต่ในภาพรวมโอกาสจะเกิดข้อตกลง Brexit มีอยู่ในระดับต่ำ ส่วนโอกาสที่ Brexit จะเลือกออกไป กับการเลือกตั้งในอังกฤษครั้งใหม่กับมีสูงขึ้น
· นักวิเคราะห์จาก TD Securities มีมุมมองเกี่ยวกั
บรายงานการประชุมเฟดที่เปิ
ดเผยเมื่อคืนนี้ว่า เป็นการชี้ให้เห็นถึ
งความแตกแยกของเฟดที่ชัดเจนยิ่
งขึ้น โดย Dot plot บ่งชี้ว่า บรรดาคณะกรรมการเฟดได้ถูกแบ่
งแยกออกเป็น 3 กลุ่มในเรื่องของการปรับอั
ตราดอกเบี้ย ซึ่งรวมถึงกลุ่มไม่สนับสนุ
นการปรับลดดอกเบี้ยในกาประชุ
มครั้งที่ผ่านมาด้วย
ขณะที่มุมมองโดยรวมของคณะกรรมการเฟด จะยังคงมองทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯไปในเชิงบวก แต่ก็ตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกประเทศที่ยังยืดเยื้อ
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่จะส่งผลกระทบต่อแนวคิดสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการเฟดจะยังขึ้นอยู่กับการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อเช่นเดิม แต่ในรายงานก็บ่งชี้ว่า คณะกรรมการกำลังพิจารณาวิธีส่งสัญญาณระงับการผ่อนคลายนโยบายให้กับตลาดด้วยเช่นกัน แต่ในมุมมองของ TD Securities แล้ว เชื่อว่าเฟดยังมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้อยู่
· ตัวแทนเจรจาการค้าระดับสูงจากสหรัฐฯและจีนจะมาเจรจาร่วมกันในวันนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือ น มิ.ย. โดยหากการเจรจาครั้งนี้ไม่สามารถหาความคืบหน้าครั้งสำคัญได้ สหรัฐฯจะเดินหน้าปรับขึ้นภาษีมูลค่า 2.5 แสนล้านเหรียญในวันที่ 15 ต.ค. นี้
โดยนายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีน เป็นผู้นำทีมเจรจาเดินทางมายังกรุงวอชิงตันของสหรัฐฯ ขณะที่ทางสหรัฐฯมีผู้นำการเจรจาคือนายโรเบิร์ต ไรท์ไฮเซอร์ ตัวแทนการค้าสหรัฐฯ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศก่อนหน้าการเจรจาค่อนข้างเป็นไปในเชิงลบ หลังจากที่เมื่อวานสหรัฐญประกาศขึ้นบัญชีดำหน่วยและบริษัทของจีน 28 แห่งทั้งบริษัทด้านเทคโนโลยี กล้องวงจรปิด และด้านความปลอดภัย จากกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ซินเจียงของจีน รวมถึงการระงับวีซ่าของเจ้าหน้าที่จีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว
ทั้งนี้ หากการเจรจาครั้งนี้ประสบความล้มเหลว สินค้าเกือบทุกรายการที่จีนส่งออกไปยังสหรัฐฯ จะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นภายในวันที่ 15 ธ.ค. เป็นมูลค่ารวมมากกว่า 5 แสนล้านเหรียญ
· รายงานจาก The New York Times ระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังพิจารณาอนุมัติให้บริษั
ทสหรัฐฯสามารถขายสินค้าที่ไม่
เป็นภัยต่อความมั่นคงให้กับ Huawei ได้ หลังจากที่ทางทำเนี
ยบขาวประกาศแบนการค้าขายร่วมกับ Huawei ไปเมื่อต้นปีนี้ เนื่องความกังวลว่าสินค้าของ Huawei อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรั
ฐฯ
· รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า ทางทำเนียบขาวแห่งสหรัฐฯ กำลังพิจารณาข้อตกลงด้านสกุลเงิ
นร่วมกับจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามหาข้
อตกลงเบื้องต้นที่อาจช่วยให้
การขึ้นภาษีสัปดาห์หน้าถูกเลื่
อนออกไปได้
· นายวิลบอร์ รอส รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์แห่งสหรั
ฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯไม่ได้ต่อต้านการค้าร่
วมกับจีน แต่เนื่องจากการปฏิบัติ
การทางการค้าของจีนย่ำแย่ลงอย่
างต่อเนื่อง ทางสหรัฐฯจึงจำเป็นต้
องออกมาตรการกดดันจีน เพื่อให้จีนตระหนักถึงปัญหาดั
งกล่าว ถ้าเป็นไปได้ ทางสหรัฐฯก็ไม่ได้ต้องการใช้
มาตรการขึ้นภาษี แต่การขึ้นภาษีเป็นวิธีเดียวที่
สามารถเตือนให้จีนตะหนักถึงสิ่
งที่สหรัฐฯกังวล
การปฏิบัติทางการค้าที่จีนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม คือการที่พวกเขาทุ่มซื้อสินค้าที่เป็นส่วนเกินของการผลิตเป็นปริมาณมาก ซึ่งส่งผลให้เกิดการโยกย้ายตลาดครั้งใหญ่ตามมา โดยหากจีนสามารถปฏิบัติตามกฏหมายการค้าได้ ทุกๆประเทศก็จะได้ผลประโยชน์กันถ้วนหน้า
· รายงานจาก Reuters ระบุว่า รัฐบาลจีนได้ลดความคาดหวังว่
าจะสามารถหาข้อตกลงการค้าร่วมกั
บสหรัฐฯในการเจรจารอบนี้ลง หลังจากที่สหรัฐฯได้ประกาศขึ้
นบัญชีดำบริษัทจีนไปเมื่อวันก่
อน แม้ทางนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะออกมากล่าวแสดงความเชื่อมั่
นต่อโอกาสเกิดข้อตกลงก็ตาม
· ยอดส่งออกของเยอรมนีปรั
บลดลงมากกว่าที่คาดในเดือน ส.ค. จึงยิ่งตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกั
บแนวโน้มที่เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่
สุดในยูโรโซนกำลังเข้าภาวะถดถอย
โดยยอดส่งออกเดือน ส.ค. ปรับลดลง 1.8% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.0% และยังเป็นอัตราชะลอตัวที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 0.5% ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าปรับลดลงมาที่ระดับ 1.81 หมื่นล้านยูโร
· นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังแห่งฝรั่
งเศส ระบุว่า อียูจะออกมาตรการคว่ำบาตรสินค้
าจากสหรัฐฯ หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถหาข้
อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับประเด็
นการจ่ายเงินสนับสนุนให้กับอุ
ตสาหกรรมการบินในประเทศได้
· รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจแห่งญี่ปุ่น ระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังไม่สามารถฟื้นตัวจากภาวะเงินฝืดได้อย่างเต็มที่ แต่เศรษฐกิจก็กำลังฟื้นตัวออกจากภาวะดังกล่าว และมีการฟื้นตัวที่ต่อเนื่อง โดยทางรัฐบาลและบีโอเจจะร่วมมือกันเพื่อรักษาการฟื้นตัวดังกล่าวต่อไป
ด้านรองผู้ว่าบีโอเจ ได้กล่าวว่า นโยบายผ่อนคลายทางการเงินได้ช่วยกระตุ้นทั้งปริมาณอุปสงค์ในเงินทุน รวมถึงการใช้จ่ายของภาคเอกชน แต่ถึงแม้ทางบีโอเจจะมีการใช้นโยบายผ่านคลายทางการเงินแบบพิเศษมานับตั้งแต่ในปี 2013 โดยมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ -0.10% และเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่ 0.00% แต่อัตราเงินเฟ้อของประเทศก็ยังคงห่างไกลจากเป้าหมายของบีโอเจที่ 2%
· รายงานจาก Reuters ระบุว่า ระบบรถไฟใต้ดินของฮ่องกงที่เพิ่
งกลับมาเปิดให้บริการ จะหยุดให้บริการเร็วกว่าเดิ
มภายในวันนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนิ
นการซ่อมแซมต่อได้ ขณะที่เมืองฮ่องกงยังคงเฝ้าระวั
งการเดินขบวนประท้วงที่มีแนวโน้
มดำเนินต่อตลอดทั้งสัปดาห์นี้
· ราคาน้ำมันปรับลดลง ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าจะเห็
นข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จี
นจากการเจรจารอบนี้ที่ตกต่ำลง จึงยิ่งส่งผลต่อความกังวลเกี่
ยวกับปริมาณอุปสงค์ในน้ำมันที่
อาจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้
า
โดยราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.2% แถว 58.23 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 0.2% แถว 52.47 เหรียญ/บาร์เรล