Thai
Eng
0 2770 7788
ทำไมต้อง MTS
รางวัล
ติดต่อเรา
Login
Toggle navigation
สินค้าและบริการ
ทองคำแท่งและเม็ดเงิน
ตราสารอนุพันธ์
ทองรูปพรรณและทองเก่า
กลุ่มลูกค้า
ลูกค้าสถาบัน
ลูกค้าบุคคล
ร้านค้าทอง
อุตสาหกรรมทองคำและเงิน
โรงรับจำนำ
บริษัทแจกทอง
โปรแกรมการลงทุน
ระบบซื้อขายทองคำแท่ง
ระบบซื้อขายอนุพันธ์
เครื่องมือการซื้อขาย
Pre Trade Tools
Post Trade Tools
มุมนักลงทุน
สถาบันการลงทุนทองคำ
รายการออนไลน์
เทคนิคการลงทุน
อบรมสัมมนา
กิจกรรม/ประชาสัมพันธ์
เริ่มต้นลงทุนกับเรา
ข่าวและบทวิเคราะห์
ข่าว
บทวิเคราะห์
เปิดบัญชี
Support
MTS Help Center
ID Code (รหัสสมาชิก - ถ้ามี)
Name (ชื่อ - นามสกุล)
*
Email Address (อีเมลติดต่อกลับ)
*
Telephone (เบอร์โทรศัพท์)
Subject (หัวข้อ)
*
Description (รายละเอียด)
*
หน้าแรก
ข่าวและบทวิเคราะห์
ข่าว
สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 11 ตุลาคม 2562
11 ตุลาคม 2562
|
Economic News
View 884
· ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและค่าเงินหยวนต่างแข็งค่าขึ้น ท่ามกลางสัญญาณเชิงบวกจากการเจรจาสหรัฐฯ-จีน ขณะที่ค่าเงินปอนด์ก็แข็งค่าขึ้นเช่นกัน จากมุมมองเชิงบวกต่อโอกาสข้อตกลง Brexit
นักวิเคราะห์จาก FXTM มีมุมมองว่า ตลาดพร้อมที่จะเฉลิมฉลองทันทีที่มีสัญญาณเกิดข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน แม้จพเป็นข้อตกลงแบบชั่วคราวก็ตาม
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่า 0.2% แถว 0.6776 ดอลลาร์ ระหว่างวันทำระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 0.6782 ดอลลาร์ ด้านค่าเงินหยวนขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ก่อนจะย่อตัวลงเล็กน้อยแถว 7.0890 หยวน/ดอลลาร์
ขณะที่ค่าเงินเยน ซึ่งเป็น Safe-haven อ่อนค่าลงแถว 108.13 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าที่สุดของวันที่ 1 ต.ค.
ค่าเงินยูโรแข็งค่าเล็กน้อยแถว 1.1018 ดอลลาร์/ยูโร เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งค่าเล็กน้อยแถว 1.2455 ดอลลาร์/ปอนด์ ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ปรับขึ้นไปได้เมื่อคืนนี้ด้วยอัตรา 2% โดยเป็นอัตราแข็งค่าที่มากที่สุดในรอบ 7 เดือน ท่ามกลางความหวังที่ดีต่อโอกาสเกิดข้อตกลง Brexit
· EUR/USD Technical Outlook: ลุ้นค่าเงินฟื้นตัวจากทิศทางขาลงระยะ 4 เดือน
นักวิเคราะห์จาก Daily FX มีมุมมองว่า ค่าเงินยูโรตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ต.ค. นี้ ก็ได้พยายามที่จะฟื้นตัวขึ้นมาเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ และล่าสุดก็ดูเหมือนจะมีโอกาสฟื้นตัวเหนือเส้นแนวต้านของเทรนขาลง หรือเส้นสีแดงตามกราฟด้านล่าง แต่ตลาดกำลังจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์เกิดความผันผวน โดยในกรณีที่การเจรจาล้มเหลว ตลาดจะมีความต้องการค่าเงินดอลลาร์ในฐานะ Safe-haven กลับมา และหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าตัดโอกาสที่ค่าเงินยูโรจะสามารถลบล้างทิศทางขาลงระยะยาวได้
ทั้งนี้ หากราคาสามารถผ่านแนวต้านกดังกล่าวขึ้นมาได้ จะมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1.1076 ดอลลาร์/ยูโร และถัดไปที่ 1.1110 ดอลลาร์ยูโร ขณะที่แนวรับจะอยู่ที่ระดับ 1.0999 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นแนวต้านเดิม หากหลุดแนวรับนี้ลงมาค่าเงินจะมีโอกาสย่อตัวกลับลงไปแถว 1.0880 – 1.0898 ดอลลาร์/ยูโรอีกครั้ง
· ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสงครามการค้า อาจกำลังกดดันให้รัฐบาลมาเลเซียพิจารณาชะลอการใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ
โดยทางรัฐมนตรีกระทรวงการคลังมาเลเซีย ระบุว่า ปัจจัยดังกล่าวจะเป็นความท้าทายให้กับแผนลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐที่ตั้งเป้าว่าจะลดยอดขาดดุลต่อ GDP ลงมาสู่ระดับ 3% จาก 3.4% ภายในปี 2020
ด้านบรรดานักวิเคราะห์มีมุมมองว่า เป้าหมายยอดขาดดุลต่อ GDP ที่ 3.1 – 3.2% ดูจะเป็นระดับที่เหมาะสมสำหรับสภาวะเศรษฐกิจของมาเลเซีบที่จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยไม่จำเป็นต้องยกเลิกมาตรการรัดเข็มขัด และสามารถรักษาความสามารถในการชำระหนี้ของประเทศได้
นอกจากนี้ อีกปัจจัยหนึ่งที่ภาครัฐควรให้ความสำคัญ คือพัฒนาให้เศรษฐกิจมาเลเซียดึงดูดบริษัทต่างชาติให้โยกย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศ เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงจากสงครามการค้า
· คณะกรรมการประจำสภาผู้แทนราษฎาสหรัฐฯ จะมีการเรียกตัวนางมารีย์ โยวาโนวิท์ช อดีตเอกอัคราชทูตยูเครน เพื่อมาให้ปากคำเกี่ยวกับประเด็นที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พยายามติดต่อกับต่างชาติเพื่อกดดันคู่แข่งทางการเมือง ภายในวันศุกร์นี้
· จากรายงานข่าวที่สหรัฐฯจะทำข้อตกลงด้านอัตราแลกเปลี่ยนร่วมกันจีน ซึ่งตลาดตอบรับเป็นสัญญาณเชิงบวกของการเจรจาการค้าครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างเตือนว่าข้อตกลงดังกล่าวจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินหยวนอย่างมีนัยสำคัญ
แต่สิ่งที่ข้อตกลงน่าจะเปลี่ยนแปลงได้ คือการที่สหรัฐฯสามารถถอนคำพูดที่กล่าวหาว่าจีนจงใจลดค่าเงินหยวนลงเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้าอย่างไม่ยุติธรรม
ทั้งนี้ ทางสหรัฐฯก็ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงดังกล่าวออกมามากนัก แต่ตลาดเชื่อว่าข้อตกลงดังกล่าวจะห้ามไม่ให้แต่ละฝ่ายสามารถลดค่าเงินของตัวเองลดเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้า
· อัตราการส่งออกของจีนในเดือน ก.ย. ถูกคาดการณ์ว่าจะชะลอตัวลงเล็กน้อย ท่ามกลางปริมาณอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนลง ประกอบกับผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ขณะที่อัตรานำเข้าถูกคาดว่าจะปรับลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญแรงกดดันที่มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การขึ้นภาษีของสหรัฐฯจะมีผลบังคับใช้กับจีนในวันที่ 15 ต.ค. และ 15 ธ.ค. เว้นเสียแต่ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาการค้าที่กำลังเกิดขึ้น ณ กรุงวอชิงตัน สัปดาห์นี้ได้
อัตราส่งออกจีนในเดือน ก.ย. ถูกคาดว่าจะชะลอตัวลง 3% จากปีก่อนหน้า ชะลอตัวยิ่งกว่าในเดือน ส.ค. ที่ 1% ขณะที่การนำเข้าถูกคาดว่าจะลดลง 5.2% จากปีก่อนหน้า เทียบกับเดือน ส.ค. ที่ลดลง 5.6%
· อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือน ก.ย. ของญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะชะลอการเติบโตลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ที่ 0.3% เทียบกับของเดือน ส.ค. ที่ 0.5% จึงอาจยิ่งกดดันให้ทางบีโอเจพิจารณาเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
· นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนายนเรนทระ โมธี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ถูกคาดการณ์ว่าจะมีข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยบริเวณชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายระหว่างการประชุมร่วมกันของทั้ง 2 ผู้นำวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะสร้างความสงบสุขให้แก่พื้นที่แคชเมียร์
· ล่าสุด ราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับสูงขึ้น 2.3% ทำระดับสูงสุดที่ 60.46 เหรียญ/บาร์เรล ก่อนจะย่อตัวลงเล็กน้อยแถว 60.13 เหรียญ/บาร์เรล
ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับสูงขึ้น 2.1% ทำระดับสูงสุดที่ 54.69 เหรียญ/บาร์เรล ก่อนจะย่อตัวลงมาแถว 54.47 เหรียญ/บาร์เรล
· สำนักข่าว ISNA ของอิหร่านรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดเรือบรรทุกน้ำมันของบริษัท National Iranian Oil จนทำให้เกิดเพลิงไหม้เรือ ห่างจากเมืองเจดดาห์ซึ่งเป็นเมืองท่าของซาอุดีอาระเบียประมาณ 60 ไมล์ ซึ่งเหตุระเบิดดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก และมีน้ำมันรั่วไหลลงในทะเลแดง ขณะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเป็นการโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย
Related
21 ธันวาคม 2564
ดอลลาร์อ่อนค่า แต่ยังมีปัจจัยหนุนจากกังวล Omicron
View 4068 | Economic News
21 ธันวาคม 2564
น้ำมันดิบน้ำมันดิบปิดร่วง จาก Omicron ระบาดเร็ว ลดแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน
View 1211 | Economic News
20 ธันวาคม 2564
สมาชิกเฟดส่งสัญญาณชัดขึ้น เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยหลังจบ Tapering QE
View 1018 | Economic News
20 ธันวาคม 2564
น้ำมันดิบปิดสัปดาห์ทรุดจากความไม่แน่นอนของ Omicron
View 1137 | Economic News
17 ธันวาคม 2564
บีโอเจมีมติลดวงเงินจัดหาเงินทุนสนับสนุนช่วงโควิด
View 1168 | Economic News
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail:
support@mtsgoldgroup.com