· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลงท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อ่อนแอ ประกอบกับการตึงเครียดทางการเมืองที่ดจะเข้ามากดดันการฟื้นตัวของตลาดหุ้น แม้ว่ารายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2019 จะออกมาดีขึ้น
ดัชนีดาวโจนส์ปิด -22.82 จุด หรือ -0.08% ที่ระดับ 27,001.98 จุด ทางด้าน S&P500 ปิด -0.20% ที่ 2,989.69 จุด และ Nasdaq ปิด -0.3% ที่ระดับ 8,124.18 จุด
เมื่อวานนี้ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน อันเป็นสัญญาณสะท้อนถึงการลุกลามของปัญหาในภาคการผลิตที่กระทบไปทั่วเศรษฐกิจในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงฮ่องกง
ขณะที่มีรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะไม่ทำการลงนามข้อตกลงการค้าใดๆก่อนที่เขาจะได้พบกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในการประชุม APEC ที่จะมาถึงที่จัดขึ้นที่ประเทศชิลี แต่ข้อตกลงบางส่วนก็ดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
· ตลาดเอเชียซื้อขายอย่างระมัดระวัง เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาอ่อนแอ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าอย่างต่อเนื่องและความกังวลเกี่ยวกับ Brexit ทำให้นักลงทุนยังคงชะลอการลงทุน
โดยเช้านี้ดัชนี Nikkei และดัชนี Topix เคลื่อนไหวทรงตัว ด้านดัชนี Kospi เกาหลีใต้ก็ทรงตัวเช่นเดียวกั
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในวันนี้ไวที่ระหว่าง 30.30-30.40 บาท/ดอลลาร์
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังของไทย (สศค.) เปิดเผยว่า มาตรการ "ชิมช้อปใช้" สำหรับการใช้จ่ายใน 19 วันแรก มีผู้ใช้สิทธิ์ 8,519,390 ราย ยอดการใช้จ่ายรวม 8,282 ล้านบาท โดยเป็นการใช้จ่ายในร้านค้าขนาดเล็กตามวัตถุประสงค์ของมาตรการฯ 82% หรือ 6,793 ล้านบาท และการใช้จ่ายในร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีหลายสาขามีสัดส่วนลดลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงเริ่มต้นมาอยู่ที่ 18% หรือ 1,489 ล้านบาทพร้อมกันนี้ เตรียมเสนอมาตรการ "ชิมช้อปใช้ เฟส 2" เสนอให้ที่ประชุมครม.เห็นชอบในวันที่ 22 ต.ค.นี้ และคาด ว่าจะเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 23 ต.ค.
- ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวัน (บอร์ดอีอีซี) รับทราบแผนเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟความความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ตามที่คณะอนุกรรมการบริหารที่มีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลังเป็นประธานเสนอ ซึ่งหากดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ คาดว่ารถไฟความเร็วสูงเชื่อม
3 สนามบินเฉพาะสถานีพญาไท-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา จะสามารถเปิดให้บริการได้เร็วที่สุดช่วงปลายปี 66 หรือต้นปี 67 ส่วน สถานีพญาไท-ดอนเมือง ที่มีการรื้อย้ายปรับปรุงสาธารณูปโภคจำนวนมาก คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วง 67-68
- นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (15 ต.ค.) ขอให้กระทรวงคมนาคมไปทบทวนแนวทางการต่อสู้คดีค่าโง่โฮปเวลล์ มูลค่า 12,000 ล้านบาทว่า ช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (บอร์ด รฟท.) เพื่อพิจารณาถึงแนวทางการต่อสู้ในคดีดังกล่าว โดยจะพิจารณาตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และจะต้องได้ข้อสรุปในวันนี้ จากนั้นจะนำเรื่องเข้ารายงานในที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้า
ส่วนจะมีแนวทางที่ทำให้รัฐบาลไม่ต้องจ่ายเงินให้กับโฮปเวลล์หรือไม่นั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ต้องรอให้ บอร์ด รฟท.เป็นผู้พิจารณา เพราะต้องศึกษาข้อกฎหมายให้รอบคอบก่อน
- นางอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/62 (ก่อนการใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน TFRS 15) บริษัทมีรายได้จากการให้บริการที่ไม่รวมค่าIC มูลค่า 15,800 ล้านบาท เติบโตขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และ 0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 6,800 ล้านบาท เติบโตขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า EBITDA margin (ปรับปรุง) อยู่ที่ 37.9% เพิ่มขึ้น 0.8 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า กำไรสุทธิ อยู่ที่ 1,800 ล้านบาท เติบโตขึ้น 6.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
- บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คแซส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโทรคมนาคมไทย เป็น"ลบ"จาก"มีเสถียรภาพ"
นอกจากนี้ ฟิทช์ฯ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) และอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ (Long-Term Local-Currency Issuer Default Rating) ของ DTAC ที่ ‘BBB’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ที่ ‘AA(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ (National Short-Term Rating) ที่ ‘F1+(tha)’