• ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความกังวลต่อการที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมาย 3 ฉบับหนุนฝ่ายผู้ประท้วงฮ่องกง อันรวมถึงการยกเลิกสถานะพิเศษทางการค้าของฮ่องกง หากไม่เคารพสิทธิมนุษยชน ขณะที่ทางการจีนตำหนิว่าร่างกฎหมายดังกล่าวหากถูกบังคับใช้จะบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยที่จีนก็ตำหนิการกระทำดังกล่าวของสหรัฐฯ และอาจหามาตรการตอบโต้ ขณะเดียวกันกลุ่มนักลงทุนก็กำลังรอผลการเจรจา Brexit
· ราคาทองคำตลาดโลกปิดปรับขึ้น 0.5% ที่ระดับ 1,488.84 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด +0.7% ที่ระดับ 1,494 เหรียญ
· หัวหน้าเทรดเดอร์จาก Global Investors กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่พิจารณาว่าร่างกฎหมายที่ส.ส.สหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายออกมาจะส่งผลกระทบต่อการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และผลดังกล่าวดูจะส่งผลบวกต่อราคาทอง
· กลุ่มนักวิเคราะห์ ยังคงมีความกังวลและรอคอยผลประชุม Brexit ในวันนี้ และวันพรุ่งนี้ ว่าจะส่งผลให้อังกฤษมีข้อตกลงการออกจากอียูภายในกำหนดเวลาหรือไม่ หรือจะเป็นการออกจากอียูแบบ No-deal หรือท้ายที่สุดจะมีการเลื่อนกำหนดเส้นตายออกไป
ซึ่งปัจจัยดังกล่าวก็ดูจะเป็นผลบวกต่อราคาทองคำ ท่ามกลางตลาดหุ้นที่ปรับตัวลงจากความวิตกกังวลเรื่องกฎหมายฮ่องกง จึงบดบังรายงานผลประกอบการเชิงบวก
· กลุ่มนักลงทุนเฝ้ารอการประชุมเฟดในช่วงสิ้นเดือนนี้ด้วยเช่นกัน เพื่อหาความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินนโยบายปรับลดดอกเบี้ย
· นักวิเคราะห์จาก Credit Suisse กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 1,500 เหรียญ โดยถูกกดดันจากความเชื่อมั่นเชิงบวกในตลาดหุ้น แต่ก็เชื่อว่าราคาทองคำจะยังทรงตัวได้แถวระดับดังกล่าวไปจนถึงปีหน้า และราคาทองคำยังมีปัจจัยสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก ตลอดจนการใช้นโยบายปรับลดดอกเบี้ย ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 ราคาทองคำน่าจะปรับขึ้นมาแถว 1,600 เหรียญได้ ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังราคาทองคำมีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวบริเวณ 1,550 เหรียญ
· กองทุนทองคำ SPDR เทขายติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยเมื่อวานนี้ขายออกอีก 1.47 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 918.19 ตัน
· ราคาพลาเดียมปิด +1.9% ที่ 1,766.16 เหรียญ หลังไปทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นตลาด 1,779.23 เหรียญ สำหรับราคาซิลเวอร์ปิดทรงตัวที่ 17.38 เหรียญ ขณะที่แพลทินัมปิด -0.3% บริเวณ 886.12 เหรียญ