Thai
Eng
0 2770 7788
ทำไมต้อง MTS
รางวัล
ติดต่อเรา
Login
Toggle navigation
สินค้าและบริการ
ทองคำแท่งและเม็ดเงิน
ตราสารอนุพันธ์
ทองรูปพรรณและทองเก่า
กลุ่มลูกค้า
ลูกค้าสถาบัน
ลูกค้าบุคคล
ร้านค้าทอง
อุตสาหกรรมทองคำและเงิน
โรงรับจำนำ
บริษัทแจกทอง
โปรแกรมการลงทุน
ระบบซื้อขายทองคำแท่ง
ระบบซื้อขายอนุพันธ์
เครื่องมือการซื้อขาย
Pre Trade Tools
Post Trade Tools
มุมนักลงทุน
สถาบันการลงทุนทองคำ
รายการออนไลน์
เทคนิคการลงทุน
อบรมสัมมนา
กิจกรรม/ประชาสัมพันธ์
เริ่มต้นลงทุนกับเรา
ข่าวและบทวิเคราะห์
ข่าว
บทวิเคราะห์
เปิดบัญชี
Support
MTS Help Center
ID Code (รหัสสมาชิก - ถ้ามี)
Name (ชื่อ - นามสกุล)
*
Email Address (อีเมลติดต่อกลับ)
*
Telephone (เบอร์โทรศัพท์)
Subject (หัวข้อ)
*
Description (รายละเอียด)
*
หน้าแรก
ข่าวและบทวิเคราะห์
ข่าว
สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 21 ตุลาคม 2562
21 ตุลาคม 2562
|
Economic News
View 908
· ค่าเงินปอนด์อ่อนค่า 0.61% บริเวณ 1.2910 ปอนด์/ดอลลาร์ ในช่วงตลาดเอเชียวันนี้ โดยอ่อนค่าลงมาจากระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ 1.2990 ปอนด์/ดอลลาร์ หลังรัฐสภาอังกฤษเลื่อนการลงมติข้อตกลง Brexit เมื่อวันเสาร์
ด้านค่าเงินยูโรอ่อนค่า 0.13% บริเวณ 1.1159 ดอลลาร์/ยูโร ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนที่ 1.1172 ดอลลาร์/ยูโร
ค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยนทรงตัวแถว 108.48 เยน/ดอลลาร์ ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งที่ 108.94 เยน/ดอลลาร์
นักวิเคราะห์จาก Barclays ระบุว่า ตลาดกำลังจับตาความคืบหน้าของกรณี Brexit ในขณะที่ความเสี่ยงที่จะเกิดกรณี No-deal Brexit ได้ลดลงไปบ้าง หลังจากการเคลื่อนไหวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
และอีกประเด็นที่ตลาดจะให้ความสนใจช่วงสัปดาห์นี้ คือการประชุมบรรดาธนาคารกลาง โดยเฉพาะการประชุมอีซีบีวันพฤหัสบดีนี้ ที่จะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในฐานะประธานอีซีบีของนายมาริโอ ดรากี้ รวมถึงการประชุมเฟดสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 29 – 30 ต.ค.
· การส่งออกของประเทศญี่ปุ่นหดตัวลงในเดือน ก.ย. ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 กระแสคาดการณ์ว่าบีโอเจจะประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมภายในการประชุมสัปดาห์หน้า เพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จึงยิ่งมีหนาแน่นขึ้น
การส่งออกในเดือน ก.ย. หดตัว 5.2% มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.0% โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์และอากาศยานไปยังสหรัฐฯ และกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ไปยังเกาหลีใต้ และการหดตัวติดต่อกันของยอดส่งออก นับว่าการหดตัวที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค. ปี 2015 ถึง พ.ย. ปี 2016 ที่การส่งออกหดตัวติดต่อกันถึง 14 เดือน
· รองประธานฝ่ายบริหารประจำองค์กร IMF ระบุว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงมากกว่าเดิมในปี 2020 แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกถูกคาดการณ์ว่าจะขยายตัวขึ้นได้เล็กน้อยก็ตาม
โดยเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ 5.8% ในปี 2020 ชะลอตัวลงจากคาดการณ์ของปี 2019 ที่ 6.1% เทียบกับของปี 2018 ที่เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้ 6.6%
อย่างไรก็ตาม รองประธานได้ระบุว่า อัตราการเติบโตที่คาดการณ์ไว้ ถือว่า “เหมาะสม” เมื่อพิจารณาจากการที่จีนกำลังพยายามปฏิรูประบบเศรษฐกิจในประเทศเพื่อให้สามารถคงการขยายตัวได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการที่จีนพยายามลดการกู้ยืมและหันไปกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคการบริโภค นั่นหมายความว่า เศรษฐกิจจะเติบโตได้ด้วยอัตราที่ช้าลง แต่เป็นการเติบโตที่มีคุณภาพมากกว่า
· ผู้ว่าธนาคารกลางจีน ระบุว่า ความตึงเครียดในสงครามการค้าและความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบาย ถือปัจจัยเสี่ยงสำคัญของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ค่าเงินหยวนในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับเหมาะสม ซึ่งก็เป็นผลจากกลไกของตลาด
นอกจากนี้ ผู้ว่าธนาคารกลางจีนยังได้กล่าวตอบโต้รายงานของ IMF โดยระบุว่า รู้สึกผิดหวังอย่างมากที่ทาง IMF ไม่ได้ประเมินมูลค่าในการถือหุ้นของจีน รวมถึงอิทธิพลที่จีนมีต่อบรรดาประเทศที่กำลังเติบโต
· รัฐมนตรีชั้นผู้น้อยในกระทรวงเศรษฐกิจของฝรั่งเศส ระบุว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากอียู ภายในระยะเวลาที่เหลือไม่ถึง 10 วัน เนื่องจากแต่ละฝ่ายมีการวางรากฐานสำหรับการถอนตัวไว้มากพอแล้ว แม้ภาคเอกชนอาจจำเป็นต้องมีความพร้อมที่มากกว่านี้ สำหรับกรณีเกิด No-deal Brexit
· นักวิเคราะห์จากสถาบัน Pictet Wealth Management มีมุมมองว่า ตลาดไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการประกาศสำคัญอะไรจากการประชุมอีซีบีวันพฤหัสบดีนี้ เนื่องจากการประชุมครั้งที่จะถึงนี้ ถือการประชุมครั้งสุดท้ายของนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีคนปัจจุบันที่กำลังจะหมดวาระ และทางอีซีบีก็น่าจะใช้เวลาส่วนใหญ่ล่ำลานายดรากี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากอีซีบีได้ประกาศผ่อนคลายนโยบายและลดดอกเบี้ยเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ทางอีซีบีน่าจะยังอยู่ในช่วงประเมินผลกระทบของนโยบายที่มีต่อเศรษฐกิจ
· นายไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีผู้ดูแลการเตรียมพร้อมสำหรับกรณี No-deal Brexit ยืนยันว่า อังกฤษจะถอนตัวออกจากอียูตามกำหนดการเดิมในวันที่ 31 ต.ค. แม้ว่าทางรัฐสภาจะมีการส่งจดหมายขอขยายเวลาให้ทางอียูแล้วก็ตาม แต่จดหมายดังกล่าวไม่ได้รับการลงนามโดยนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และรัฐสภาจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความตั้งใจหรือจุดมุ่งหมายของนายบอริสได้
· รายงานจาก Reuters ระบุว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะพยายามผลักดันให้รัฐสภาทำการลงมติข้อตกลง Brexit ฉบับล่าสุด ภายในวันจันทร์นี้
· ราคาน้ำมันเริ่มทรงตัว หลังจากที่ปรับลดลงในช่วงตลาดก่อนหน้า แต่ตลาดยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางเศรษฐกิจที่อาจกดดันปริมาณอุปสงค์ในน้ำมันได้
โดยราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 1 เซนต์ บริเวณ 59.41 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 2 เซนต์ บริเวณ 53.76 เหรียญ/บาร์เรล
นักวิเคราะห์จาก CMC Markets มีมุมมองว่า ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะคงอยู่ต่อไปในระยะยาว ดังนั้นราคาน้ำมันก็มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงระยะยาวเช่นกัน
Related
21 ธันวาคม 2564
ดอลลาร์อ่อนค่า แต่ยังมีปัจจัยหนุนจากกังวล Omicron
View 4068 | Economic News
21 ธันวาคม 2564
น้ำมันดิบน้ำมันดิบปิดร่วง จาก Omicron ระบาดเร็ว ลดแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน
View 1211 | Economic News
20 ธันวาคม 2564
สมาชิกเฟดส่งสัญญาณชัดขึ้น เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยหลังจบ Tapering QE
View 1018 | Economic News
20 ธันวาคม 2564
น้ำมันดิบปิดสัปดาห์ทรุดจากความไม่แน่นอนของ Omicron
View 1137 | Economic News
17 ธันวาคม 2564
บีโอเจมีมติลดวงเงินจัดหาเงินทุนสนับสนุนช่วงโควิด
View 1168 | Economic News
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail:
support@mtsgoldgroup.com