· ดัชนี S&P500 ปิดปรับตัวสูงขึ้น +0.69% ที่ 3,006.72 จุด ขณะที่ดาวโจนส์ปิด +0.21% ที่ระดับ 26,827.64 จุด และ Nasdaq ปิด +0.91% ที่ 8,162.99 จุด จากสัญญาณความคืบหน้าของการแก้
ไขปัญหาสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มการค้
าและทิศทางเศรษฐกิจโลก
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯยังมีท่าทีเชิงบวกอย่างต่อเนื่องต่อเรื่อง Trade War กับทางจีน ในขณะที่นายแลรี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของนายทรัมป์ เผย อาจถอนกำหนดการขึ้นภาษีนำเข้าจีนในเดือน ธ.ค. หากเจรจาเป็นไปด้วยดี
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ควบคู่กับการประกาศผลประกอบการภาคบริษัทที่ออกมาดีขึ้นกว่าคาด
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนบวก ท่ามกลางสัญญาณที่ดีเกี่ยวกั
บการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-
จีน หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวถึงโอกาสเกิดข้อตกลงการค้
ากับจีนในทางที่ดี และนายแลรี คุดโลว์ ที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาว ที่ระบุว่า การขึ้นภาษีจีนที่ถูกกำหนดไว้
ในเดือน ธ.ค. อาจถูกพิจารณายกเลิกไปได้ หากการเจรจาดำเนินไปได้ด้วยดี
วันนี้เป็นวันหยุดประจำชาติของญี่ปุ่น จึงทำให้ปริมาณซื้อขายในช่วงเช้าวันนี้ค่อนข้างเบาบาง โดยดัชนี MSCI เปิดแดนบวกเล็กน้อยที่ +0.13% ขณะที่ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.4%
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ระหว่าง 30.20-30.35 บาท/ดอลลาร์
- กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดว่าเงินบาทจะเข้าทดสอบระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 ปี ครั้งใหม่ในสัปดาห์นี้ โดยมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15-30.45 บาท/ดอลลาร์
- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ไทย แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ก.ย.62 โดยระบุว่า การส่งออกมีมูลค่า 20,481.3 ล้านเหรียญฯ หดตัว -1.39% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 19,206.1 ล้านเหรียญ หดตัว -4.24% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 1,275.2 ล้านเหรียญ 3% โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 4 การส่งออกจะขยายตัวได้ 0.1% ที่มูลค่า 20,821 ล้านเหรียญ
- ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ประเมินว่า การส่งออกไทยทั้งปี 62 จะหดตัวลง 1% จากปีก่อน หลังจากที่ในเดือน ก.ย.62 ยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ 1.39% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ 2.70%
- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และ H.E. U Kyaw Kyaw Maung ผู้ว่าการ ธนาคารกลางเมียนมา (Central Bank of Myanmar) ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ 2 ฉบับ ได้แก่ 1)บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมการใช้เงินจ๊าตและเงินบาทสำหรับการชำระธุรกรรมระหว่างไทยและเมียนมา และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านเทคโนโลยีทางการเงินและการชำระเงิน