· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น โดยทองคำตลาดโลกปิด +0.2% ที่ 1,491 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด +0.6% ที่ 1,495.7 เหรียญ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่เข้าถือครองจากความไม่แน่นอน Brexit หลังส.ส.อังกฤษต้องการผลักดันการเลื่อนเส้นตายออกไป ขณะเดียวกันตลาดก็จับตากระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อ
· กองทุนทองคำ SPDR ขายทองออกในวันอังคาร 4.98 ตัน และเมื่อวานนี้ขายทองออกอีก 1.18 ตัน รวมขายสองวัน 6.16 ตัน ปัจจุบันเหลือการถือครองที่ระดับ 918.48 ตัน
· นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered Bank กล่าวว่า ความไม่แน่นอนของ Brexit และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนกลับเข้าหาทองคำ
· เมื่อวานนี้ กลุ่มผู้นำอียูกำลังพิจารณาว่าจะขยายกำหนดเส้นตาย Brexit ออกไปอีก 3 เดือนให้แก่ทางอังกฤษหรือไม่ ซึ่งทาง นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ชี้ว่า หากผู้นำอียูทำเช่นนั้นเขาจะเรียกร้องให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ในช่วงคริสมาสต์
อย่างไรก็ดี ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่มากว่านายจอห์นสัน จะสามารถออกจากอียูได้ภายใน 31 ต.ค.นี้หรือไม่ หลังจากที่รัฐสภายังคงปฏิเสธเงื่อนไขกรอบเวลาของเขา
· รองรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า จีนและสหรัฐฯสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันบางส่วนในการเจรจาได้ แต่ความยืดเยื้อของสงครามการค้าระหว่างสองประเทศก็ดูจะสร้างความปั่นป่วนให้แก่ตลาดการเงิน รวมทั้งสร้างความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับภาวะถดถอยได้
· กลุ่มนักลงทุนกำลังรอคอยการประชุมเฟดในช่วงสิ้นเดือนนี้ ว่าเฟดจะตัดสินใจลดดอกเบี้ยอีกครั้งหรือไม่ โดยที่ภาพรวม Fed Fund Futures ชี้ว่ามีโอกาสสูงถึง 91% ที่น่าจะเห็นเฟดลดดอกเบี้ยลง 0.25% อีกครั้ง
· นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากแรงหนุนของกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย ขณะที่อีซีบีมีท่าทีใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อ ซึ่งการยิ่งเพิ่มการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของบรรดาธนาคารกลางขนาดใหญ่ต่างๆ ดูจะเป็นผลบวกต่อทองคำในระยะยาว
· ราคาซิลเวอร์ปิด +0.1% ที่ระดับ 17.54 เหรียญ ในขณะที่ราคาแพลทินัมปิด +2.5% ที่ระดับ 913.41 เหรียญ หลังจากที่ไปทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือนในช่วงต้นตลาด ทางด้านราคาพลาเดียมปิด -0.8% ที่ระดับ 1,742.01 เหรียญ