• ราคาทองคำทำระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ และยืนเหนือระดับ 1,500 เหรียญ ท่ามกลางแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ประกาศออกมาอ่อนแอ จึงยิ่งหนุนกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือนนี้ ขณะที่ราคาพลาเดียมปรับขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่
ราคาทองคำปรับสูงขึ้นทำระดับสูงสุดของวันที่ 10 ต.ค. ที่ 1,504.86 เหรียญ และทรงตัวแถวบริเวณ 1,504.44 เหรียญ ในภาพรวมรายสัปดาห์ ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นได้ 1.1% ซึ่งเป็นอัตราปรับขึ้นที่มากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ของวันที่ 20 ส.ค.
ด้านราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.2% แถว 1,507.20 เหรียญ
• นับเป็นที่ครั้งที่ 2 ในรอบ 2 สัปดาห์ ที่ราคาทองคำสามารถปรับขึ้นเหนือระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,500 เหรียญ โดยเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ราคาได้ปรับขึ้นทะลุระดับ 1,500 เหรียญเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี และขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1,557 เหรียญ เมื่อวันที่ 4 ก.ย.
ยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ในสหรัฐฯปรับลดลงมากกว่าที่คาดในเดือน ก.ย. และยอดขนส่งก็ชะลอตัวลง จึงเป็นสัญญาณว่าปริมาณการลงทุนจากภาคธุรกิจกำลังอ่อนแอลงจากผลกระทบของสงครามการค้า
เฟดได้ปรับลดดอกเบี้ยลงแล้ว 2 ครั้งภายในปีนี้ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่ายังมีการปรับลดดอกเบี้ยลงได้อีก 1 ครั้ง เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังเผชิญแรงกดดันจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อเป็นเวลายาวนาน
• นักวิเคราะห์จาก Argonaut Securities มีมุมมองว่า ราคาทองคำมีแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ รวมถึงมีโอกาสค่อนข้างสูงที่เฟดจะทำการปรับลดดอกเบี้ยลงในการประชุมปลายเดือนนี้ แต่เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าเริ่มที่ผ่อนคลายลง หากมีข่าวความคืบหน้าในเชิงบวกออกมา ก็จะเป็นตัวกดดันราคาทองคำ
สำหรับวันนี้ ประเมินว่า นักลงทุนบางส่วนเริ่มทีการเทขายทำกำไรในทองคำลงมาบ้าง หลังจากที่ราคาปรับขึ้นเหนือระดับสำคัญที่ 1,500 เหรียญ
• นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ยอมรับว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถผลักดันให้อังกฤษออกจากอียูในวันที่ 31 ต.ค. พร้อมเรียกร้องให้อังกฤษจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในวันที่ 12 ต.ค.
• ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังมีความระมัดระวังก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อจับตาการประชุมธนาคารกลางรายใหญ่ในสัปดาห์หน้า รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ขระที่ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงต่อจากความกังวลเกี่ยวกับ Brexit
• ปริมาณการนำเข้าทองคำของประเทศจีนผ่านทางฮ่องกงลดลง 9% ในเดือน ก.ย. โดยเป็นผลกระทบจากปริมาณอุปสงค์ที่อ่อนแอลง และกระแสคาดการณ์ว่าจะเห็นรัฐบาลจีนออกมาตรการหนุนค่าเงินหยวนที่กำลังอ่อนค่า
• Gold technical analysis: ทองคำเริ่มมีสัญญาณขาขึ้น ยังยืนเหนือระดับสำคัย 1,500 เหรียญ
บทวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่า ราคาทองคำในคืนที่ผ่านมา ปรับขึ้นเหนือระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,500 เหรียญและปิดตลาดโดยยืนเหนือระดับนี้ได้ ส่งผลให้กราฟราย 1 ช.ม. ก่อตัวเป็นลักษณะ Bull flag ถ้าหากราคายังสามารถคงทิศทางขาขึ้นต่อได้ ก็จะมีเป้าหมายแรกที่ 1,520 เหรียญ และถัดไปที่ 1,535 เหรียญ
ในทางกลับกัน หากราคาย่อตัวหลุดระดับสำคัญลงมา ก็มีโอกาสที่จะย่อตัวลงแรง โดยมองแนวรับไว่ที่บริเวณ 1,460 – 1,470 เหรียญ ถัดไปที่ 1,450 เหรียญ และ 1,420 เหรียญ และหากรับการย่อตัวของราคาไม่ไหวก็อาจลดลงไปถึงระดับ 1,385 เหรียญ
• นักวิเคราะห์ประจำ ANZ ระบุว่า ปัจจัยที่ขับเคลื่อนราคาทองคำได้แก่ อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ และค่าเงินดอลลาร์ และประเมินว่าระดับต่ำสุดของราคาทองคำน่าจะอยู่ทีประมาณ 1400 เหรียญ ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับปัจจุบันประมาณ 100 เหรียญ
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าราคาทองคำจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นไปถึงระดับ 1700 เหรีญในช่วงเวลา 6 เดือนข้างหน้า
จากกราฟจะเห็นได้ว่าราคาทองคำอาจจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 1700 เหรียญขึ้นไป ในอีก 6 เดือนข้างหน้า จึงเป็นโอกาสของเหล่านักลงทุน
ทาง ANZ มองว่าเฟดจะเริ่มออกจากวัฎจักรการปรับลดดอกเบียในระยะยกลาง โดยมองว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ และจะชะลอการปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้า เพื่อจับตาดูว่าประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน จะไม่กดดันการเติบโตของสหรัฐฯไปมากกว่านี้ ขณะที่ยังมองว่าการเติบโตของอัตราเงินเฟ้อไม่สามารถถึงเป้าหมายที่ระดับ 2% ตามเป้าหมายของเฟดได้ไปอีกระยะหนึ่ง
• ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,785.50 เหรียญ ท่ามกลางความกังวลจากภาวะขาดแคลนอุปทาน ก่อนจะลงมาทรงตัวแถว 1,776.68 เหรียญ โดยพลาเดียมถูกใช้ในระบบกำจัดไอเสียของยานพาหนะ และราคาพลาเดียมได้ปรับสูงขึ้นมากว่า 41% เฉพาะในภาพรวมปีนี้
ด้านราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.1% แถว 17.93 เหรียญ ส่วนราคาแพลทินัมปรับสูงขึ้น 0.4% แถว 927.71 เหรียญ หลังจากทำระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ไปเมื่อช่วงก่อนหน้า
Thai
Eng