· ราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบก่อนทราบผลการประชุมเฟดคืนนี้ โดยมีแรงหนุนเป็นบางส่วนจากตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง
ราคาทองคำปรับสูงขึ้น 0.1% แถว 1,489.05 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.1% แถว 1,491.40 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัวโยมีกรอบกว้างอยู่ที่ระหว่าง 1,480 – 1,520 เหรียญ โดยหากเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินมากกว่าที่ตลาดคาด อาจเห็นราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้
· ข้อมูลจาก FedWatch tool โดย CME Group บ่งชี้ว่า ตลาดคาดการณ์เป็นที่ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า เฟดจะทำการปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมคืนนี้ ขณะที่โอกาสจะเห็นเฟดลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ลดลงมาอยู่ที่ 30% จากเมื่อต้นเดือนที่ 70%
· ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอ่อนแอลงเล็กน้อย จึงเป็นปัจจัยที่หนุนราคาทองคำ โดยในวันนี้ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลดลง 0.16% จากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ขึ้นไปได้เมื่อวาน จากรายงานที่ว่าการลงนามร่วมกันในข้อตกลงสหรัฐฯ-จีนอาจถูกเลื่อนออกไป
· นักวิเคราห์จาก ABC Bullion ระบุว่า ราคาทองคำยังค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการประชุมเฟด ขณะที่รายงานเกี่ยวกับการลงนามในข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่อาจถูกเลื่อนออกไป น่าจะส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะต่อไป
· ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคาทองคำตลอดปีนี้ โดยเมื่อวานนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯประกาศออกมาอ่อนแอลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
ขณะที่อังกฤษกำลังจะมีการเลือกตั้งขึ้นในเดือน ธ.ค. หลังจากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ สามารถเรียกเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาให้จัดการเลือกตั้งได้มากพอ เพื่อทำให้ภาวะ Brexit ที่ยืดเยื้อเดินหน้าต่อไปได้
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters คาดว่าราคาทองคำอาจลงทดสอบระดับ 1,480 เหรียญ และมีโอกาสหลุดลงไปถึงระดับ 1,458.50 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 1 ต.ค.
· Gold technical analysis: ราคาทองคำยังยืนเหนือเส้นเทรนขาขึ้นระยะ 3 เดือน
ท่ามกลางข่าวความคืบหน้าในเชิงบวกทั้งเรื่องของการเจรจาการค้าและการเมือง ตลาดจึงได้กลับเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้งหนึ่ง ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวแถว 1,489 เหรียญในช่วงสายวันนี้
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากเส้น MACD ที่เริ่มส่งสัญญาณของการกลับตัว ประกอบกับกระแสความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เริ่มฟื้นตัว หากราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นได้ จะเผชิญกับแนวต้านสำคัญที่ 1,500 เหรียญ หากผ่านไปได้ก็จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 1,518 – 1,520 เหรียญ
โดยหากผ่านแนวต้านเหล่านี้ได้ ทิศทางระยะสั้นจะเริ่มกลับมาเป็นขาขึ้น และจะมีเป้าหมายถัดไปที่ 1,535 เหรียญ และถัดไปที่ระดับสูงสุดของเดือน ก.ย. ที่ 1,557 เหรียญ
ในทางกลับกัน ราคาทองคำจะมีแนวรับแรกที่ 1,482 เหรียญ หากหลุดแนวรับนี้ลงไป จะมีโอกาสย่อตัวลงไปถึงเส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วัน ที่ระดับ 1,467 เหรียญ และหลังจากนั้นที่ 1,453 – 1,452 เหรียญซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเดือน ก.ค.
· ราคาซิลเวอร์ทรงตัว 17.80 เหรียญ ด้านราคาแพลทินัมปรับลดลง 0.4% แถว 916.78 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.4% แถว 1,788.52 เหรียญ