• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562

    1 พฤศจิกายน 2562 | Economic News


· ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นท่ามกลางการอ่อนค่าของดอลลาร์หลังจากที่เฟดตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้ พร้อมเปิดกว้างต่อคำถามในการปรับลดดอกเบี้ยในอนาคตแม้จะหยุดการส่งสัญญาณด้วยข้อความ “ดำเนินการอย่างเหมาะสม” แต่หลายๆฝ่ายก็คาดว่าอาจเห็นเฟดปรับลดดอกเบี้ยได้อีกครั้ง


และในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ค่าเงินหยวนก็แข็งค่าขึ้นทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 11 สัปดาห์


การปราศจากความชัดเจนในการสิ้นสุดการผ่อนคลายทางการเงินอย่างเป็นทางการในเวลานี้ ประกอบกับท่าทีคุมเข้มทางการเงินที่น้อยกว่าที่คาด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่า


ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1.1161 ดอลลาร์/ยูโร โดยช่วงต้นตลาดไปทำ High รอบ 10 วันทำการบริเวณ 1.11705 ดอลลาร์/ยูโร


ดัชนีดอลลาณ์เมื่อวานนี้อ่อนค่าลง 0.4% แตะระดับ 97.29 จุด ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ ด้านค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นในฐานะ Safe-Haven โดยปรับแข็งค่า 0.2% ที่ระดับ 108.62 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ช่วงต้นตลาดทำระดับแข็งค่าสุดรอบ 6 วันทำการที่ 108.54 เยน/ดอลลาร์


ค่าเงินเยนกลับมาแข็งค่าจากการที่ชิลีประกาศยกเลิกการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม APEC ในเดือนพ.ย. ขณะที่สหรัฐฯและจีนถูกคาดหวังถึงความคืบหน้าในการยุติสงครามการค้าที่ยืดเยื้อมากว่า 15 เดือน


อย่างไรก็ดี บรรดาเทรดเดอร์คาดว่าทั้งสองประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ โดยที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวถึง การที่สหรัฐฯและจีนยังมุ่งหน้าติดต่อกันเพื่อหารือถึงรายละเอียดข้อตกลงกันอยู่


ค่าเงินหยวนแข็งค่ามากที่สุดรอบ 11 สัปดาห์ และล่าสุดปิดตลาด +0.1% ที่ระดับ 7.0345 หยวน/ดอลลาร์





· เมื่อวานนี้ นายโดนัดล์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า การลงนามข้อตกลงเฟสแรกระหว่างสหรัฐฯและจีนจะมีการประกาศสถานที่ใหม่อีกครั้งในเร็วๆนี้ หลังจากท่ี่ชิลียกเลิกการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม APEC และในรายละเอียดของการทวิตเตอร์ข้อความของนายทรัมป์ มีการระบุถึงข้อตกลงการค้ากับจีนเฟสแรกที่แล้วเสร็จไปประมาณ 60%

· สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯมีความคืบหน้าครั้งสำคัญในกรณีไต่สวนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยสภาผู้แทนฯที่มีเดโมแครตเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมาก ได้โหวตให้ผลักดันการไต่สวนนายทรัมป์ดำเนินสู่ขั้นตอนต่อไป ด้วยคะแนนเสียง 232 ต่อ 196 เสียง โดยการไต่สวนครั้งต่อไปจะดำเนินการในสภาคองเกรสและเป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณชนมากขึ้น และคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นภายในช่วงสัปดาห์ต่อๆไป แต่ยังไม่มีวันที่ที่แน่นอน

· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวถึงการเลือกตั้งของอังกฤษ โดยระบุว่า หากนายเจเรมี คอร์บลิน หัวหน้าพรรค Labour ฝ่ายค้านในรัฐสภาชนะการเลือกตั้ง จะเป็นผลลัพธ์ที่ ”ไม่ดี” ต่ออังกฤษ เนื่องจากนายทรัมป์มองว่า นายคอบลินเป็นผู้นำที่ไม่ดี และจะนำอังกฤษไปสู่จุดที่ไม่เหมาะสม

ในทางตรงข้าม นายทรัมป์เคยกล่าวถึงนายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีอังกฤษคนปัจจุบัน ว่าเป็น “ผู้ที่ยอดเยี่ยม”

· รัฐมนตรีกระทรวงการคลังแห่งอังกฤษ ระบุว่า รัฐบาลจะยังไม่ประกาศชื่อผู้ที่จะมารับตำแหน่งประธานธนาคารกลางอังกฤษ จนกว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธ.ค. ไปก่อน ขณะที่นายมาร์ค คานีย์ ประธานประธานธนาคารคนปัจจุบัน กำลังจะออกจากตำแหน่งในวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเดียวกับกำหนดการ Brexit ใหม่

· บรรดาผู้นำทางการเมืองของสเปนเริ่มเปิดฉากแคมเปญหาเสียงเลือกตั้ง ก่อนหน้าการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในวันที่ 10 พ.ย. อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความแตกแยกที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมสเปน ผลสำรวจเบื้องต้นชี้ว่า จะไม่มีฝ่ายใดในรัฐสภาที่จะสามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภาได้อย่างเป็นเอกฉันท์

· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลงภายใต้แรงกดดันจากการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ รวมทั้งข้อมูลกิจกรรมภาคการผลิตจีนที่อ่อนแอ โดยน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 40 เซนต์ ที่ระดับ 60.21 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับลง 88 เซนต์ หรือคิดเป็น -1.6% เช่นกันที่ระดับ 54.18 เหรียญ/บาร์เรล โดยภาพรวมเดือน ต.ค. น้ำมันดิบทั้ง 2 ประเภทมีการปรับขึ้นได้ประมาณ 0.9% ซึ่งถือเป็นระดับการปรับขึ้นรายเดือนที่มากที่สุดตั้งแต่มิ.ย.

ผลสำรวจนักวิเคราะห์จากรอยเตอร์ส สะท้อนว่า ราคาน้ำมันมีแนวโน้มจะถูกกดดันต่อในปีนี้และปีหน้า โดยทีมนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดราคาปีนี้ของ Brent จะเฉลี่ยอยู่ที่ 64.16 เหรียญ/บาร์เรล และ 62.38 เหรียญ/บาร์เรลในปีหน้า

· กิจกรรมภาคอุตสาหกรรมจีนหดตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ในเดือนต.ค. ขณะที่ภาคบริการจีนชะลอตัวลงทำต่ำสุดตั้งแต่เดือนก.พ. ปี 2016


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com