· ราคาทองคำปรับตัวลงท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่หันเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยง อันเป็นผลจากการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่มีความคืบหน้าในทิศทางเชิงบวก จึงช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
· ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลง 0.4% ที่ระดับ 1,507.71 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ทรงตัวเท่าเดิมที่ 1,511.1 เหรียญ
· หัวหน้านักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า ราคาทองคำสะท้อนผลเชิงลบจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้น แต่ก็ยังมีแรงซื้อทองคำเข้ามาในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่มีเหตุใหญ่ใดๆเข้ามาสนับสนุนนับตั้งแต่ที่ตลาดหุ้นค่อนข้างเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดี
· 3 ดัชนีหลักในตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงเปิดตลาดทำ All-Time High อย่างต่อเนื่อง นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าสหรัฐฯและจีน รวมทั้งการฟื้นตัวของสภาพเศรษฐกิจในประเทศ
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองเชิงบวกของเศรษฐกิจสหรัฐฯและจีน หรือการคลายความกังวลเรื่อง Trade War ควบคู่กับการที่เฟดตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ของปี แต่ก็ไม่มีการส่งสัญญาณว่าจะลดดอกเบี้ยต่อจนกว่าจะเห็นสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
นอกจากนี้ ในช่วงปิดตลาดนักลงทุนก็รอคอยถ้อยแถลงของนางคริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบีคนใหม่ที่จะกล่าวขึ้นรับตำแหน่งเป็นครั้งแรกนั้น ตลาดคาดหวังที่จะเห็นท่าทีของเธอต่อแนวทางดำเนินนโยบายผ่อนคลายตามที่ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบีคนเก่าดำเนินการไว้
· นักวิเคราะห์จาก Julius Baer กล่าวว่า ภาพรวมราคาทองคำยังมีแรงหนุนจากภาวะไม่สดใสของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับความไม่แน่นอนของข้อตกลงการค้า จึงน่าจะเป็นปัจจัยที่กดดันดอลลาร์ในช่วงเข้าสู่ปี 2020 และนั่นจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
· นักวิเคราะห์อาวุโสจากคิทโก มองว่า ในทางเทคนิคราคาทองคำจะมีแนวต้านอยู่ที่ 1,520.9 เหรียญ และ 1,525 เหรียญ ขณะที่แนวรับจะอยู่บริเวณ 1,505.4 เหรียญ และ 1,500 เหรียญตามลำดับ
· กองทุนทองคำ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองที่ 914.67 ตัน
· ราคาซิลเวอร์อ่อนตัวลง 0.3% ที่ระดับ 18.04 เหรียญ ทางด้านราคาแพลทินัมปิด -1.2% ที่ 934.75 เหรียญ หลังจากที่ไปทำสูงสุดตั้ง 25 ก.ย. ที่ 955.75 เหรียญ สำหรับพลาเดียมปิด -1.5% ที่ระดับ 1,777.93 เหรียญ