· ราคาทองคำปรับลดลงต่อจากเมื่อคื
น ท่ามกลางแรงกดดันจากมุมมองเชิ
งบวกที่มีต่อทิ
ศทางการเจรจาทางการค้า จึงหนุนค่าเงินดอลลาร์และความต้
องการสินทรัพย์เสี่ยงสูงขึ้น และกดดันความต้องการในทองคำลงมา
ราคาทองคำปรับลดลง 0.2% แถว 1,506.33 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับลดลง 0.2% แถว 1,508.40 เหรียญ
· รายงานจากทั้งสหรัฐฯและจีนต่างส่งสัญญาณถึงความคืบหน้าของการเจรจาการค้า โดยรายงานจาก Financial Times ระบุว่า สหรัฐฯกำลังพิจารณายกเลิกการขึ้นภาษีสินค้าจีนบางตัวอยู่
· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ระบุว่า กระแสคาดหวังว่าจะเห็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนสงบลง ได้หนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในคืนที่ผ่านมา จึงกดดันราคาทองคำในวันนี้
· ดัชนีดอลลาร์เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบสัปดาห์ เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปิดใกล้ระดับสูงสุดของเดือน ก.ค. จากความคาดหวังว่าสหรัฐฯและจีนมีการลงนามในข้อตกลงเฟสแรกกลางเดือนนี้
· นักวิเคราะห์จาก UBS มีมุมมองว่า ท่ามกลางภาวะที่มีข่าวดีเกี่ยวกับการเจรจาการค้า และตลาดหุ้นก็เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุด ราคาทองคำจะถูกทดสอบ และถ้าหากราคายังสามารถทรงตัวอยู่เหนือระดับสำคัญได้ ราคาก็จะมีโอกาสกลับไปเป็นขาขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
· อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ตลาดคลายกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก คือการที่ข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐฯประกาศออกมาค่อนข้างสดใสในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจไม่ได้ชะลอตัวตามที่หลายฝ่ายกังวล แม้เฟดจะมีการปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ถึง 3 ครั้งแล้วก็ตาม
สำหรับข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ตลาดจับตาในคืนนี้ ได้แก่ ISM non-manufacturing PMI ของสหรัฐฯ ที่คาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะขยายตัวดีขึ้นในเดือน ต.ค.
· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวเสริมว่า มีโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำปรับลดลงมาถึงระดับ 1,400 เหรียญภายในปีหน้า หากตัวเลขทางเศรษฐกิจยังคงทิศทางที่สดใสเช่นนี้ได้ตลอด
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ประกาศในคืนที่ผ่านมา ยอดคำสั่งซื้อสินค้าที่ผลิตในสหรัฐฯกลับปรับลดลงมากกว่าที่คาดในเดือน ก.ย. และการเข้าซื้ออุปกรณ์ของภาคบริษัทก็ชะลอตัวลงเล็กน้อย บ่งชี้ถึงภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯที่ยังมีสัญญาณของความอ่อนแอท่ามกลางผลกระทบของสงครามการค้า
· ผลสำรวจจาก Kitco บ่งชี้ถึงมุมมองของบรรดานักวิเคราะห์ที่มองว่า ราคาทองคำจะยังทรงตัวแถวระดับ 1,500 เหรียญในช่วงสัปดาห์
นักวิเคราะห์จาก Saxo Bank มีมุมมองว่า ราคาทองคำค่อนข้างมีสัญญาณของทิศทางขาขึ้นในระยะยาว เนื่องจากตลาดตอบรับสัญญาณล่าสุดจากการประชุมเฟดเมื่อสัปดาห์ก่อน ว่าเฟดกำลังเปลี่ยนแนวทางการดำเนินนโยบายจากแบบ Neutral มาเป็นค่อนข้างผ่อนคลาย
นักวิเคราะห์จาก Commerzbank มีมุมมองว่า แม้ราคาทองคำในระยะสั้นจะยังขาดปัจจัยหนุน แต่ราคาทองคำก็สามารถรับตอบรับกับปัจจัยกดดันต่างๆได้เป็นอย่างดี จึงคาดว่าราคาไม่น่าจะหลุดต่ำกว่า 1,500 เหรียญ
นักวิเคราะห์จาก CMC Markets มีมุมมองค่อนข้างเป็นเชิงบวกกับราคาทองคำ เนื่องจากราคาสามารถทรงตัวเหนือแนวรับสำคัญได้ แม้จะเผชิญแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ออกมาสดใส
นักวิเคราะห์จาก Forexlive.com มองราคาทองคำเป้นขาขึ้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง หลังจากการประชุมเฟดเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่เฟดระบุว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ จึงน่าจะกลายเป็นปัจจัยที่หนุนราคาทองคำ
บรรณาธิการ Eureka Miners Report มองราคาทองคำจะปรับตัวลงในระยะสั้น เนื่องจากตลาดหุ้นยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหากดัชนี S&P 500 ขึ้นไปถึงระดับ 3,100 จุด ราคาทองคำก็มีโอกาสจะย่อตัวลงมาถึง 1,457 เหรียญ
· Gold technical analysis: ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ ท่ามกลางสัญญาณการเจรจาการค้าเชิงบวก
บทวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่า ในช่วงสายวันนี้ ราคาทองคำเคลื่อนไหวแถวระดับ 1,506 เหรียญ คิดเป็น +0.17% ในภาพรายวัน หลังจากที่ราคาปรับลดลงมาจากระดับ 1,515 เหรียญเมื่อคืนนี้
โดยราคาทองคำยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1,475 – 1,520 เหรียญ ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนก็มีแนวโน้มที่จะสามารถร่วมลงนามในเฟสแรกได้ โอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นเหนือแนวต้านสำคัญจึงมีค่อนข้างต่ำ
ทางด้านสัญญาณทางเทคนิคอย่าง RSI และ MACD ต่างบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวลง
ดังนั้นราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับแรกที่ระดับ 1,503 เหรียญ และถัดมาที่แนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,500 เหรียญ
ในทางกลับกัน หากราคาฟื้นตัวและยืนเหนือระดับ 1,510 เหรียญได้ ราคาจะเริ่มมีสัญญาณของฝั่งขาขึ้นกลับมาอีกครั้ง
· ด้านราคาซิลเวอร์ทรงตัวแถว 18.06 เหรียญ ส่วนราคาแพลทินัมปรับสูง 0.3% แถว 937.97 เหรียญ หลังจากปรับลดลงกว่า 1% ในช่วงก่อนหน้า
ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.1% แถว 1,781.19 เหรียญ หลังจากปรับลดลงกว่า 1.5% ในช่วงก่อนหน้า