• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2562

    8 พฤศจิกายน 2562 | Gold News
   

· ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ร่วงลงไปกว่า 2% เมื่อวานนี้ โดยล่าสุดราคาทองคำเคลื่อนไหวที่ 1,468.51 เหรียญ แต่ภาพรวมรายสัปดาห์ร่วงลงมากที่สุดตั้งแต่พ.ค. ปี 2017 และมีระดับการทำต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน ด้านสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับขึ้น 0.2% ที่ระดับ 1,469.8 เหรียญ

· ตลาดหุ้นทั่วโลกมีการฟื้นตัว และดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ตอบรับข่าวท่ี่สหรัฐฯและจีนเห็นพ้องกันในการจะยกเลิกภาษีสินค้าบางส่วนระหว่างกัน อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าเฟสแรก

· นักกลยุทธ์ค่าเงินอาวุโสจาก DailyFX กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหลุดกรอบที่เคยเคลื่อนไหวมาอย่างยาวนาน และมีแนวโน้มจะปรับตัวลงต่อ แต่ความไม่แน่นอนก็ยังคงม่ีอยู่เนื่องจากทางทำเนียบขาวยังมีสมาชิกที่คัดค้านต่อการจะถอนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนบางส่วน และทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงเห็นราคาทองคำเผชิญกับแรงเทขายในตลาด แต่ก็ไม่หลุดต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิมที่ทำไว้ในเดือนส.ค.

อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์ยังคงไม่มีความชัดเจนก็จะทำให้ราคาทองคำกลับมาเคลื่อนไวในกรอบ Sideways แต่หากความชัดเจนเป็น "NO" หรือการประนีประนอมหาข้อตกลงร่วมกันมาไม่สัมฤทธิ์ผล เมื่อนั้นเราจะเห็นราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นแน่นอน แต่หากข้อตกลงค่อนข้างแข็งแกร่งและช่วยบรรเทาความตึงเครียดในตลาดได้เราก็จะเห็นทองคำปรับตัวลง

· ภาพรวมปีนี้ทองคำปรับตัวขึ้นได้ 14% จากภาวะสงครามการค้าที่ดูจะเป็นตัวจุดประกายภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก

· นักวิเคราะห์จาก UBS มองว่า สัญญาณเชิงบวกในตลาดหุ้นและผลตอบแทนพันธฐัตรดูจะส่งผลต่อภาวะการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในเวลานี้

· รายงานจาก Australian Bank กล่าวว่า หลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2013 ราคาทองคำก็มีแนวโน้มจะปรับอ่อนตัวลงมาอีกครั้ง และมาเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพบริเวณ 1,400 เหรียญในปีหน้า ก่อนจะค่อยๆกลับฟื้นขึ้นไปแตะ 1,600 เหรียญในปี 2021

นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Macquarie มองว่านักลงทุนทั่วโลกพร้อมที่จะเข้าซื้อราคาทองคำ อันจะเห็นได้จากสถานะสุทธิใน CME Futures และกองทุน ETF ที่มีระดับการถือครองทองคำอย่าง All-Time Highs ซึ่งหากภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว หรือความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องจากสภาวะทางการเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้นไม่ว่าจะในอังกฤษ, สหรัฐฯ หรือตะวันออกกลาง ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำได้


โดยราคาทองคำมีโอกาสจะย่อกลับมาเคลื่อนไหวแนว 1,400 เหรียญได้ในปี 2020

อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวของราคาก็ดูจะยังมีแรงสนับสนุนโดยการเข้าซื้อของบรรดาธนาคารกลางรวมทั้งการเพิ่มขึ้นของการถือสถานะLong ของกลุ่มนักลงทุนจึงช่วยชดเชยการถือสถานะ Short ในระยะสั้นๆได้ และหลังจากที่ราคาทองคำกลับมาสู่ภาวะปรับฐานอีกครั้งก็มีโอกาสจะเห็นทองคำกลับมาเป็นขาขึ้น แต่การวิเคราะห์นี้สื่อถึงภาพระยะยาว ที่อาจเห็นทองคำไปยืนเหนือ 1,600 เหรียญได้ในปี 2021

image.png

· นักวิเคราะห์จาก Kitco วิเคราะห์ว่า ราคาทองคำโดยภาพรวมทางเทคนิคได้สูญเสียภาวะขาขึ้น และมีภาพรวมระยะสั้นๆกลับมาเป็นขาลงอีกครั้งโดยไปทำต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ซึ่งหากทองคำจะกลับมาเป็นขาขึ้นต้องสามารถ Breakout เหนือแนวต้านสำคัญทางเทคนิคบริเวณ 1,500 เหรียญให้ได้อีกครั้ง แต่หากหลุดแนวรับ 1,425 เหรียญลงมาจะยิ่งตอกย้ำภาวะขาลง โดยวันนี้คาดราคาทองคำจะมีแนวต้านที่ 1,480 และ 1,475 เหรียญตามลำดับ ขณะที่แนวรับด้านล่างอยู่ที่ 1,462.2 และ 1,450 เหรียญตามลำดับ

image.png

· FX Street : ราคาทองคำยืนยันทิศทางขาลง

บทวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่า ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,475 เหรียญ ลงมาทำระดับต่ำสุด 1,460 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 1 ต.ค. ก่อนจะดีดขึ้นมาเคลื่อนไหวแถว 1,468 เหรียญ แต่ภาพรวมรายวันยังปรับลดลงไป 1.48%

การที่ราคาทองคำปรับลดลงหลุดแนวรับ 1,475 เหรียญ จึงนับว่าราคาได้หลุดการกรอบการเคลื่อนไหวเดิมระหว่าง 1,475 – 1,520 เหรียญ ที่เคลื่อนไหวมาตลอดช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้

การปรับลดลงของราคาทองคำ น่าจะเป็นผลกระทบมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ที่ปรับขึ้นจาก 1.80% สู่ระดับ 1.97% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 1 ส.ค. หรือในรอบ 3 เดือน จึวช่วยหนุนดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้ 0.20% มาที่บริเวณ 98.13 จุด

นอกจากนี้ มุมมองเชิงบวกของตลาดที่มีต่อการเจรจาการค้า ยังได้ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นทั่วโลกต่างปรับตัวสูงขึ้น จึงยิ่งกดดันราคาทองคำ

ดังนั้น ราคาทองคำมีความเสี่ยงที่จะย่อตัวลงมาถึงระดับ 1,450 เหรียญ เว้นเสียแค่ ตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนประกาศออกมาเป็นที่ผิดหวังของตลาด ราคาทองคำก็อาจมีแรงหนุนกลับขึ้นมาได้บ้าง

· ราคาซิลเวอร์ปรับลง 0.5% ที่ 17.03 เหรียญ และภาพรวมรายสัปดาห์อ่อนตัวลงประมาณ 6% ซึ่งเป็นระดับการอ่อนตัวลงมากที่สุดตั้งแต่ก.ค.ปี 2017


· ราคาแพลทินัมปรับลง 0.3% ที่ 906.06 เหรียญ และสัปดาห์นี้ปรับตัวลงกว่า 4% ทางด้านพลาเดียมปรับลง 0.2% ที่ 1,797.87 เหรียญ และทำให้ภาพรวมสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่แย่ที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com