· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนและญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่าสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
ซึ่งอัตราการผลิตภาคอุตสาหกรรมของประเทศจีนชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดในเดือน ต.ค. ท่ามกลางความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกและปริมาณอุปสงค์ในประเทศจีน ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ยืดเยื้อ โดยอัตราการผลิตขยายตัวได้ 4.7% ในเดือน ต.ค. เทียบกับที่คาดการณ์เอาไว้ที่ 5.4%
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปรับลดลง 0.3%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่ง หลังจากเกิดแรงเทขายกลับเข้ามาเรื่องจากความไม่แน่นอนทางการเจรจาการค้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่สื่อประเทศญี่ปุ่นหลายแห่งได้รายงานว่า Z Holdings ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Yahoo Japan เตรียมที่จะควบรวมกิจการกับ LINE เจ้าของ Application ส่งข้อความชื่อดัง ที่มีผู้ใช้ในไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 โดยคาดว่าข้อตกลงในการควบรวมกิจการบรรลุได้ภายในสิ้นเดือนนี้
โดยดัชนี Nikkei ลดลง 0.8% ที่ะรดับ 23,141.55 จุด ปรับตัวลดลงนับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ด้านดัชนี Topix ลดลง 0.9% ที่ะรดับ 1,684.40 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่ง
· ตลาดหุ้นจีนรีบาวน์จากระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน หลังจากข้อมูลทางเศรษฐกิจสะท้อนให้เห็นถึงการชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนต.ค.ที่ผ่านมา จึงอาจจะที่เพิ่มความคาดหวังว่ารัฐบาลจะเปิดตัวมาตรการใหม่เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.16% ที่ะรดับ 2,909.87
· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดทำการอย่างระมัดระวัง เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยดัชนี Stoxx600 ทรงตัว ด้านหุ้นกลุ่มยานยนต์ลดลง 1.6% เนื่องจากเป็นหุ้นกลุ่มเดียวที่เคลื่อนไหวทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างแข็งแกร่ง