· ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเมื่อวานนี้ โดยปรับลงจากระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ หลังสหรัฐฯได้เริ่มผ่อนปรนต่อใบอนุญาตบริษัทสหรัฐฯในการทำธุรกรรมกับบริษัท Huawei จึงจุดประกายความหวังที่ว่าการเจรจาการค้าสหรัฐฯและจีนอาจยังคงดำเนินต่อไป
ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.15% ที่ระดับ 1,469.87 เหรียญ หลังไปทำสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 1,478.8 เหรียญ ในขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดที่ระดับ 1,474.2 เหรียญ
· กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยืนยันถึงการเริ่มต้นขยายเวลาใบอนุญาตให้แก่บริษัทสหรัฐฯบางส่วนในการทำธุรกิจกับบริษัท Huawei แล้ว
· หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้ากลุ่มโลหะมีค่าจาก BMO กล่าวว่า การประกาศดังกล่าวดูจะสร้างแรงเทขายให้กลับมาในตลาดทอง
อย่างไรก็ดี ภาพรวมตลาดยังมีแรงหนุนจากการที่วุฒิสภาสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนแก่ฮ่องกง ขณะที่จีนเรียกร้องสหรัฐฯยุติการแทรกแซงภายในประเทศ พร้อมกล่าวในเชิงที่อาจมีการดำเนินการตอบโต้
ล่าสุดจาก CNBC ระบุว่า ทางสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวของทางวุฒิสภา และอาจทำให้นายทรัมป์เผชิญกับปัญหาในการเจรจาการค้ากับจีนได้
ทั้งนี้ ในวันก่อน นายทรัมป์มีการขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในเร็วๆนี้
· นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสจาก RJO Futures มองว่า ทุกๆข่าวหรือการหารรือในเรื่อง Trade War ดูจะทำให้เกิดสภาวะ Knee-jerk ในตลาดทองคำ จึงทำให้เราเห็นทองคำปรับขึ้นได้ไม่มากนัก แม้ตลาดหุ้นจะปรับตัวลง ขณะที่ภาพรวมเมื่อคืนนี้ตลาดก็รอรายงานประชุมเฟด และถึงแม้จะมีความไม่แน่นอนของข้อตกลงเฟสแรก แต่หากมีข้อตกลงเกิดขึ้นจริงมีโอกาสเห็นทองคำหลุดต่ำกว่า 1,450 เหรียญ และมีโอกาสร่วงกลับมาที่ 1,400 เหรียญ
· นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco ระบุว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ที่รอผลรายงานประชุมเฟดก็เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับกรอบเวลาในการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่บรรดาสมาชิกเฟดในเวลานี้ดูเหมือนจะไม่ส่งสัญญาณถึงการจะลดดอกเบี้ยในอนาคตแต่กลับมีท่าทีเข้มงวดในการดำเนินนโยบายมากขึ้น
· กองทุนทองคำ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองที่ 891.79 ตัน
· ราคาซิลเวอร์ปิด -0.14% ที่ 17.11 เหรียญ ทางด้านแพลทินัมปิด +0.5% ที่ระดับ 914.77 เหรียญ ในขณะที่พลาเดียมปิด +0.5% ที่ 1,770.92 เหรียญ