ตลาดการเงินดูจะให้ความสนใจกับข้อตกลง “เฟสแรก” มาตั้งแต่ช่วง 6 สัปดาห์ก่อน แต่การที่สหรัฐฯออกร่างกฎหมายสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกง รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับการที่ละดภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯและจีนก็ดูจะสร้างความเสี่ยงในการทำข้อตกลงอีกครั้ง ซึ่งภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่มีการรีบาวน์ในกรอบจากการที่เฟดเลือกจะคงดอกเบี้ยออกไปจนถึงปีหน้า จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะมีสัญญาณชะลอตัว
โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 ยังคงมีความเสี่ยงที่หลากหลาย รวมทั้งความไม่แน่นอนในการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกยังคงมีอยู่ และหากเศรษฐกิจโลกยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวใดๆ รวมทั้งไม่มีความคืบหน้าเรื่อง Trade War และ Brexit ก็อาจเห็นแรงหนุนเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างหนัก
ค่าเงินปอนด์อาจกลับมาแข็งค่าอย่างรวดเร็วได้ในช่วงใกล้เลือกตั้งอังกฤษ 12 ธ.ค.นี้ โดยที่ Goldman Sachs และ Bank of America Merrill Lynch ต่างก็มองว่าเงินปอนด์ยังคงมีทิศทางที่แข็งค่า โดยที่ Polls เลือกตั้งอังกฤษยังบ่งชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของ นายบอริส จอห์นสัน นายรักฐมนตรีอังกฤษยังคงมีคะแนนนำพรรคคู่แข่งอย่างพรรคแรงงาน จึงมีโอกาสที่เราอาจเห็นข้อตกลง Brexit เกิดขึ้นได้ แต่ความแน่นอนก็อาจไม่หมดสิ้นไปหลังทราบผลเลือกตั้ง ซึ่งก็อาจทำให้ข้อตกลงการค้าในอนาคตมีความตึงตัวมากขึ้นได้
นอกจากนี้ ตลาดยังให้ความสนใจกับถ้อยแถลงของ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด รวมทั้งผลสำรวจภาคธุรกิจของเยอรมนีโดย IFO รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคในสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดอาจจะมีสภาพคล่องที่เบาบางลงจากวันหยุดเทศกาล Thanksgiving และ Black Friday
Key Economic Releases and Events:

ตลาดต่างๆ
สถานการณ์น่าสนใจ
Hong Kong
การเลือกตั้งฮ่องกงที่ผ่านมาก็ยัง 50/50 ว่าพวกเขาจะยกเลิกผลดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งหากยกเลิกก็ดูเหมือนจะยิ่งจะประกายกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ความรุนแรงและกลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกงดูจะยังดำเนินต่อไป หลังจากที่สภาคองเกรสสนับสนุนร่างกฎหมายฮ่องกงล่าสุด
ความเสี่ยง
กลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกงดูจะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างมาก และโอกาสที่จะเกิดการแทรกแซงโดยตรงจากจีนยังอยู่ในระดับต่ำ และอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน HKD ก็ยังคงอยู่ใกล้ระดับศูนย์
China
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนดูจะเป็นไปในเชิงบวก แต่จีนก็ยังมีความไม่พอใจต่อสภาคองเกรสที่อนุมัติร่างกฎหมายฮ่องกง พร้อมตำหนิว่าเป็นการแทรกแซงการดำเนินงานภายใต้การดูแลของจีน
ความเสี่ยง
จีนอาจทำให้การเจรจาการค้าชะงักงันได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อหุ้นจีน รวมทั้งหุ้น APAC และอาจเห็นค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงมากกว่านี้ได้
การเลือกตั้งอังกฤษ
การเลือกตั้งอังกฤษก็ดูจะยังเป็นจุดสนใจ และการอภิปราย ของบรรดาหัวหน้าพรรคทั้งหลายในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ยังสะท้อนมุมมองผ่านผลสำรวจที่ว่า พรรคอนุรักษ์นิยม ดูจะเป็นที่ชื่นชอบต่อบรรดาประชาชนส่วนใหญ่ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ค่อนข้างที่จะทรงตัวและมีบางช่วงปรับแข็งค่าขึ้นได้ก่อนการเลือกตั้งภายในกรอบ 1.28 – 1.30 ดอลลาร์/ปอนด์
ทั้งนี้ หากพรรคอนุรักษ์นิยมสามารถครองเก้าอี้ได้ก็มีโอกาสจะทำให้ค่าเงินปอนด์ Break กรอบดังกล่าวและปรับแข็งค่าขึ้นได้
US Politics
ตลาดการเงินดูจะตอบรับและให้ความสนใจกับความคืบหน้าของการไต่สวนนายทรัมป์ แต่ก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน โดยที่ยังเห็นความเหนียวแน่นของวุฒิสภาพรรครีพับลิกันที่ยังไม่สนับสนุนถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2020 ก็ยังเป็นที่สนใจต่อตลาดปานกลางหากนายไบเดน และนายบัททิเจียจ ได้รับเลือกเป็นผู้แทนลงท้าชิง ขณะที่แนวโน้มสินทรัพย์เสี่ยงจะค่อนข้างแย่หากนายแซนเดอร์ หรือนางวอร์เรน ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯก็ยังดูจะมั่นใจต่อการที่นายทรัมป์ จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยที่ 2
ที่มา: FXStreet