· ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวผันผวน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในฮ่องกงอาจสร้างแรงกดดันให้กับการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ขณะที่มีแรงหนุนบางส่วนหลังการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาสดใสก่อนเข้าสู่วันหยุดในเทศกาล Thanksgiving ของสหรัฐฯ
โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับลดลง 0.2%
นักวิเคราะห์จาก Saxo Capital Markets มีมุมมองว่า สถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีนอาจเลวร้ายลงภายในอีก 24 - 48 ช.ม. ข้างหน้า และตลาดหุ้นก็จะเคลื่อนไหวลงต่ออีก
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ ท่ามกลางความกังวลหลังงประธานาธิบดีสหรัฐฯลงนามในร่างกฏหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง ตลาดจึงกลับมากังวลกับโอกาสเกิดข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนอีกครั้ง
โดยดัชนี Nikkei ปิด -0.12% ที่ระดับ 23,409.14 จุด ขณะที่ดัชนี Topix ปิด -0.17% ที่ระดับ 1,708.06 จุด
นักวิเคราะห์จาก Mitsubishi UFJ มีมุมมองว่า ในระยะสั้น ตลาดจะจับตาท่าทีตอบสนองของประเทศจีนที่มีต่อการเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ขณะที่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจน่าจะลงทำจุดต่ำสุดและเป็น bottoming out ไปแล้ว
· ตลาดหุ้นจีนปิดลบ ท่ามกลางตลาดที่กลับมากังวลกับโอกาสเกิดข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนอีกครั้ง หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯลงนามในร่างกฏหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง
โดยดัชนี Shanghai Composite ปิด -0.5% แถว 2,889.69 จุด ขณะที่ดัชนี blue-chip CSI300 ปิด -0.3% ที่ระดับ 3,862.30 จุด
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความกังวลกับแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังที่ปรึกษาประจำรัฐบาลจีนมีความเห็นว่า รัฐบาลควรปรับลดเป้าหมายอัตราเติบโตของเศรษฐกิจปี 2020 ลงต่ำกว่า 6% และออกนโยบายเพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจมากขึ้น
· J.P. Morgan มีมุมมองที่ดีต่อตลาดหุ้นเอเชียปี 2020 โดยเฉพาะตลาดหุ้นเกาหลีใต้และอินเดียที่มีแนวโน้มจะมีผลประกอบที่ดีจนน่าประหลาดใจ
สำหรับคาดการณ์ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น J.P. Morgan ตั้งเป้าหมายของดัชนีในช่วงครึ่งแรกขอปงี 2020 ไว้ที่ 750 จุด หรือสูงกว่าระดับปัจจุบันประมาณ 8% แต่ในครึ่งปีหลังลดเป้าหมายลงมาที่ 700 จุด
สิ่งที่ทำให้คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นเกาหลีใต้และอินเดีย น่าจะมีผลประกอบการที่ดีกว่าตลาดอื่นๆในภูมิภาค มาจากการฟื้นตัวของปริมาณอุปสงค์ในสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีและภาคบริษัทก็เริ่มกลับเข้ามาลงทุนในกลุ่มนี้ ซึ่งเกาหลีใต้และอินเดียเป็นประเทศที่มีจุดเด่นในด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยี จึงมีแนวโน้มที่จะได้แรงหนุนจากกระแสดังกล่าว และมีผลประกอบที่ดีจนน่าประหลาดใจ
· ตลาดยุโรปเปิดแดนลบ ท่ามกลางตลาดที่กำลังจับตาความเคลื่อนไหวต่อไปของสหรัฐฯและจีนด้วยท่าทีระมัดระวัง โดยดัชนี Stoxx 600 เปิด -0.2% นำโดยหุ้นกลุ่มยานยนต์ที่ปรับลดลง 0.5% ขณะที่หุ้นส่วนใหญ่ต่างเคลื่อนไหวแดนลบ
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ตลท.เผยบริษัทจดทะเบียนรับผลกระทบรอบด้าน เศรษฐกิจชะลอ กระทบค่าเงิน ราคาปิโตรฯ การแข่งขันรุนแรงฉุดยอดขายทรุดหนี้พุ่ง กำไรงวด 9 เดือนแรกปีนี้ลดลง 15% เฉพาะไตรมาส 3/62 ร่วงไปกว่า 18% โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิเดือนตุลาคม 2562 เป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 ว่า
- รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 241,822 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 6,946 ล้านบาท หรือ 3.0% และสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน 45,431 ล้านบาท หรือ 23.1% โดยการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 5,548 หรือ 9.6% และการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรสูงกว่าประมาณการ 2,415 ล้านบาท หรือ 2.0%
- นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เซตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ลงนามร่างกฎหมายสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง สร้างความกังวลให้กับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส และตลาดภูมิภาคต่างอ่อนตัวลง แต่ก็ยังเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายน่าจะคุยกันได้อยู่ดี อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามความคืบหน้าเจรจาการค้าต่อไป