· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าสหรัฐฯและจีน ประกอบกับกลุ่มนักลงทุนรอคอยข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯในคืนนี้ที่อาจบ่งชี้ถึงภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯได้ โดยราคาทองคำตลาดโลกทรงตัวที่ 1,475.36 เหรียญ แต่ภาพรวมสัปดาห์นี้ปรับขึ้นมาได้ประมาณ 0.8% และในส่วนของสัญญาทองคำปรับลงเล็กน้อย 0.2% ที่ 1,480.4 เหรียญ
· นักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดจาก CMC Markets กล่าวว่า ราคาทองคำยังไม่สามารถหาทิศทางที่แท้จริงได้ โดยปัจจุบันกลับลงมาเคลื่อนไหวแบบสะสมพลังและรอคอยโอกาสที่อาจทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงและไปทางใดทางหนึ่งในวันที่ 15 ธ.ค.นี้
ซึ่งหากเจรจาการค้าไม่ประสบผลสำเร็จก็อาจทำให้เราเห็นราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นไปต่อ โดยเราจะเห็นทองคำเคลื่อนไหวแบบสะสมพลังไปก่อนจนถึงช่วงสิ้นปีนี้ และจะแตกต่างจากช่วงต้นปีที่เราเห็นทองคำเป็นไปในทิศทางเชิงบวก
· การที่สหรัฐฯจะทำการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนรอบใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ 15 ธ.ค.นี้ โดยจีนต้องการให้สหรัฐฯยกเลิกการขึ้นภาษีครั้งใหม่รอบนี้ เพื่อให้เกิดข้อตกลงการค้าร่วมกันในการลดความตึงเครียดของ Trade War
ขณะที่เมื่อวานนี้ นายทรัมป์ ก็ยังคงกล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจากับทางจีนว่ายังคงดำเนินไปในทิศทางที่ดี และถ้อยแถงเชิงบวกก็ได้ช่วยหนุนให้หุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นและเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ
· ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปแล้วประมาณ 15% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวขึ้นรายปีที่ดีที่สุดตั้งแต่ ปี 2010 อันได้รับผลกระทบจากความยืดเยื้อของ Trade War มายาวนานกว่า 17 เดือน ที่เป็นปัญหาคุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก
· นักกลยุทธ์การตลาดจาก AxiTrader กล่าวว่า ราคาทองคำเข้าสู่สภาวะสะสมพลังและมีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวในกรอบตลอดช่วงปลายสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดที่มีสูง และอัตราดอกเบี้ยยังเคลื่อนไหวในระดับต่ำ
· เทรดเดอร์กำลังรอคอยข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯในคืนนี้ที่จะเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯว่าแข็งแรงเพียงพอหรือจะเป็นอีกหนึ่งตัวที่สอดคล้องกับการปรับตัวลงในช่วงก่อนหน้า
· แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ในระดับปานกลาง แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่จากผลสำรวจรอยเตอร์ส จะชี้ว่า ข้อตกลงการค้าเฟสแรกนั้นทางการจีนและสหรัฐฯจะลงนามร่วมกันได้ภายในช่วง 3 เดือนจากนี้
· นักวิเคราะห์จาก FXStreet มองว่า ราคาทองคำระหว่างวันฟื้นตัวมาเคลื่อนไหวแถว 1,475-1,476 เหรียญในตลาดเอเชีวันีน้ หลังจากที่ล้มเหลวในการฝ่าระดับเส้น EMA ทางเทคนิคบริเวณ 50 วัน ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่มีท่าทีระมัดระวังต่อการซื้อขายจนกว่าจะทราบความชัดเจนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
เพราะถึงแม้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะมีการส่งสัญญาณถึงการทำข้อตกลงเฟสแรกกับทางจีนในเชิงบวก แต่ถ้อยแถลงก่อนหน้าก็ดูจะลดโอกาสของข้อตกลงไป ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองและการค้าถือเป็นประเด็นหลักในเวลานี้ที่อาจเป็นปัจจัยขับเคลื่อนต่อทิศทางราคาทองคำ
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในค่ำคืนนี้ ได้แก่
- การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯ เดือนพ.ย. ที่คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มมาที่ 180,000 ตำแหน่ง จาก 128,000 ตำแหน่ง
- อัตราว่างงานที่คาดว่าจะทรงตัวเท่าเดิมที่ 3.6%
- ค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงที่น่าจะทรงตัวบริเวณ 3.0%
Technical Analysis
ราคาทองคำทรงตัวได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA ราย 50 วันที่ระดับ 1,477 เหรียญ ซึ่งแรงซื้อที่เข้ามาหากทำให้ราคาผ่าน 1,485 เหรียญไปได้ ก็มีโอกาสทำให้เราเห็นราคาทองคำที่ระดับ 1,500 เหรียญ ในทางกลับกันระดับแนวรับระยะสั้นจะอยู่ที่ 1,463 เหรียญ หากหลุดลงมาก็มีโอกาสจะเห็นราคาปรับตัวลงมาบริเวณ 1,455 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก DailyFX กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวเข้าสู่กรอบขาขึ้นระยะสั้นๆ โดยจะเห็นได้จากฐานฟอร์มตัวตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพ.ย. แต่ภาพตั้งแต่จุดสูงสุดในเดือนก.ย. ปี 2019 ก็ดูจะเห็นเป็นภากที่ราคาปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น จากภาพการลงทุนราคาทองคำมีแนวโน้มจะกลับทดสอบแนวรับ 1,453 เหรียญได้ ซึ่งเมื่อนั้นก็น่าจะมีโอกาสปรับขึ้นชนกรอบแนวต้านด้านบนได้อีกครั้ง
· ราคาพลาเดียมยังคงทรงตัวที่ 1,871.92 เหรียญ หลังไปทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์บริเวณ 1,876.54 เหรียญ ในขณะที่ราคาแพลทินัมปิด +0.1% ที่ 897.57 เหรียญ และซิลเวอร์ปิด -0.2% ที่ 16.91 เหรียญ โดยภาพรวมของแพลทินัมและพลาเดียมปิดปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์