• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 9 ธันวาคม 2562

    9 ธันวาคม 2562 | Economic News

· ค่าเงินดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัวในระดับสูง หลังจากแข็งค่าขึ้นตามหลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานที่ดีขึ้นกว่าที่คาดในคืนวันศุกร์ โดยตลาดเริ่มชะลอการลงทุนเพื่อจับตาความชัดเจนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

โดยดัชนีดอลลาร์ทรงตัวแถว 97.706 จุด ในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นมาถึง 0.3% ในคืนวันศุกร์ ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวแถว 1.10575 ดอลลาร์/ยูโร หลังลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 1.10395 ดอลลาร์/ยูโร เมื่อคืนวันศุกร์

เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์ทรงตัวแถว 108.58 เยน/ดอลลาร์ หลังจากทำระดับแข็งค่าสุดที่ระดับ 108.92 เยน/ดอลลาร์

บรรดานักวิเคราะห์มีมุมมองว่า การที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประกาศออกมาเพิ่มขึ้นถึง 266,000 ตำแหน่งเมื่อเดือนก่อน ซึ่งนับเป็นอัตราเพิ่มขึ้นที่มากที่สุดในรอบ 10 เดือน บ่งชี้ว่า ภาวะสงครามการค้าที่หลายฝ่ายกังวลว่ากำลังกัดกินการเติบโตของเศรษฐกิจ ยังไม่ได้ลุกลามเข้ามาในภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่นักวิเคราะห์ก็ยังกังวลว่า หากความขัดแย้งยังดำเนินต่อไป และสหรัฐฯตัดสินใจขึ้นภาษีสินค้าผู้บริโภคจากประเทศจีนเป็นมูลค่า 1.56 แสนล้านเหรียญในวันที่ 15 ธ.ค. ก็อาจกลายเป็นผลกระทบที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯเองได้

นักวิเคราะห์ FX จาก State Street มีมุมมองว่า สหรัฐฯและจีนน่าจะกำลังพยายามหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆที่อาจทำให้การเจรจาล้มเหลว สังเกตุได้จากหัวข้อข่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้นการขึ้นภาษีวันที่ 15 ธ.ค. นี้ น่าจะถูกยกเลิกหรือเลื่อนออกไป

นายแลรี คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้กล่าวว่า สหรัฐฯยังมีกำหนดการที่จะดำเนินการขึ้นภาษีจีนในวันที่ 15 ธ.ค.นี้อยู่ แต่ได้กล่าวเสริมว่า ประธานาธิบดีทรัมป์รู้สึกพึงพอใจกับทิศทางการเจรจาการค้าที่กำลังเกิดขึ้น

ด้านค่าเงินปอนด์เคลื่อนไหวแถวระดับ 1.3143 ดอลลาร์/ปอนด์ ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ 1,3166 ดอลลาร์/ปอนด์ ซึ่งขึ้นไปถึงเมื่อวันพฤหัสบดีสัปดาห์ก่อน

· นักวิเคราะห์จากเครือธนาคาร ANZ แนะนำไม่ควรถือครองสถานะ Long ในค่าเงินปอนด์ช่วงสัปดาห์นี้ เนื่องจากตลาดกำลังคาดหวังผลลัพธ์ของการเลือกตั้งในอังกฤษวันที่ 12 ธ.ค. นี้ไว้ดีเกินไป

โดยโพลสำรวจส่วนใหญ่เชื่อว่าพรรคอนุรักษนิยมของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีแนวโน้มสูงที่จเป็นครองเสียงข้างมากในรัฐสภา ตามมาเป็นอันดับที่ 2 คือพรรคแรงงานฝ่ายค้าน

หากนายบอริสชนะการเลือกตั้งและดำเนินการตามสัญญาที่จะนำพาอังกฤษออกจากอียูในวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งหมายความเขาต้องเจรจาข้อตกลงการค้าร่วมกับอียูให้สำเร็จภายในปีนี้ ซึ่งในมุมมองของ ANZ มองว่าเป็นไปได้ยาก ขณะที่การขยายเวลาของการค้าเสรีแบบปลอดภาษีระหว่างอังกฤษ-อียูเป็นการชั่วคราวระหว่างที่ทั้งสองกำลังเจรจา ดูจะมีความเป็นไปได้ในเชิงปฏิบัติมากกว่า

· นายลีออน พาเนทตา และนายเจมส์ แมททิส อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯทั้ง 2 ได้วิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ทำให้การเจรจาระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือประสบความล้มเหลว เนื่องจากการเจรจาเกิดขึ้นโดยปราศจากการเตรียมความพร้อม อีกทั้งนายทรัมป์ โดนัลด์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ไม่ยอมขอความร่วมมือผู้นำประเทศอื่นๆให้เข้าร่วมการเจรจา โดยมองว่า การเจรจากับผู้นำเกาหลีเหนือ หากผู้นำประเทศอื่นๆเข้าร่วมโต๊ะเจรจาด้วย ผลลัพธ์ของการเจรจาก็น่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ

· ปัจจัยที่ตลาดจะให้ความสำคัญมากที่สุดในสัปดาห์นี้ ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณว่าการขึ้นภาษีจีนของสหรัฐฯในวันที่ 15 ธ.ค. จะถูกเลื่อนออกไปหรือไม่ ขณะที่นักวิเคราะห์ยังคงมีความคิดเห็นที่ผสมผสานกัน แต่ก็ยังประเมินถึงความเสี่ยงของผลลัพธ์ที่ไม่อาจคาดเดาไว้เช่นกัน

นอกจากการเจรจาการค้าแล้ว ประเด็นอื่นๆที่ตลาดจะจับตา คือผลการประชุมเฟดคืนวันพุธนี้ ที่คาดว่าจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการเลือกตั้งในอังกฤษและประเด็น Brexit ที่อาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นได้



การประชุมเฟดสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มสูงที่จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ย แต่ตลาดจะจับตาถ้อยแถลงหลังการประชุม ว่าเฟดมีมุมมองเช่นไรกับการดำเนินนโยบายการเงินแบบปัจจุบัน รวมถึงทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยังมีตัวเลข CPI ของสหรัฐฯที่จะประกาศในสัปดาห์นี้เช่นกัน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณชี้วัดถึงทิศทางอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯได้

หัวหน้าฝ่าย Research จากสถาบัน Strategas ระบุว่า มีความเป็นไปได้ต่ำที่จะเกิดข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ดังนั้นตลาดจะจับตาว่าสหรัฐฯจะเดินหน้าขึ้นภาษีในวันที่ 15 ธ.ค. นี้หรือไม่

ทั้งนี้ คะแนนความนิยมในตัวนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ลดลงนับตั้งแต่เกิดสงครามการค้ากับจีน อาจเป็นปัจจัยผลักดันให้เขาพิจารณาทำข้อตกลงการค้ากับจีน แม้ข้อตกลงอาจไม่เป็นไปตามที่เขาต้องการทุกอย่างก็ตาม

นักกลยุทธ์จากสถาบัน Wells Fargo คาดการณ์ว่าข้อตกลงการค้าจะได้รับการลงนามในช่วงเดือนถัดๆไป ขณะที่การขึ้นภาษีก็มีความเป็นไปได้ที่จะถูกเลื่อนออกไป เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการเจรจาที่กำลังเกิดขึ้น

นอกจากนี้ การขึ้นภาษีรอบล่าสุดจะเป็นสินค้าในกลุ่มผู้บริโภค จึงอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ชัดเจนต่อทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคถือเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ

· รายงานจาก Wall Street Journal ระบุว่า ตัวแทนพรรคเดโมแครต และนายโรเบิร์ต ไรท์ไฮเซอร์ ตัวแทนการค้าแห่งสหรัฐฯ ใกล้ที่จะสามารถผ่านร่างข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-เม็กโก-แคนาดา ฉบับปรับปรุงใหม่ได้แล้ว โดยอาจประสบความสำเร็จอย่างเร็วที่สุดภายในวันคริสต์มาสนี้

ทั้งนี้ ร่างข้อตกลงการค้าดังกล่าว แม้จะได้รับการลงนามร่วมกันไปเมื่อปีก่อน ยังจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบรัฐสภาของทั้ง 3 ประเทศ รวมถึงสภาคองเกรสแห่งสหรัฐฯเสียก่อน ถึงจะสามารถมีผลบังคับใช้ได้

· ผู้ว่ามณฑลซินเจียงแห่งประเทศจีนกล่าวประณามสหรัฐฯ ว่าการผ่านร่างนโยบายที่จะกดดันให้มณฑลซินเจียงปิดค่ายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นสถานที่กักกันชาวอุยกูร์ ว่าเป็นความพยายามแทรกแซงกิจกรรมภายในประเทศ

พร้อมระบุว่า นักเรียนที่อยู่ในสถานที่ดังกล่าว ได้ “จบการศึกษา” ไปแล้ว และนักเรียนใหม่ที่จะเข้ามาก็จะมีอิสระในการเลือกที่จะเข้าหรือออกได้เสมอ

· โพลสำรวจจาก Survation ในอังกฤษพบว่า พรรคอนุรักษนิยมมีคะแนนนำคู่แข่งอย่างพรรคแรงงานอยู่ 14% เพิ่มขึ้น 9% ในสัปดาห์ก่อน ขณะที่นักวิเคราะห์จากธนาคาร MUFG มองว่า หากผลการเลือกตั้งเป็นไปตามโพลสำรวจ หมายความว่าพรรคอนุรักษนิยมจะยังคงไม่สามารถครองเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาดได้ ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากรัฐสภาในปัจจุบัน ซึ่งตลาดอาจมีการตอบรับกับผลการเลือกตั้งเช่นนี้ในเชิงผิดหวังอย่างมากได้

· รายงานระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้ออกมารวมตัวกันเดินขบวนอย่างสงบตลอดช่วงบ่ายวานนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมและตำรวจ เนื่องจากกลุ่มผู้ประท้วงจุดไฟเผาที่บริเวณนอกศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์ และทุบทำลายร้านค้าต่างๆในย่านธุรกิจ

ทั้งนี้ การชุมนุมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยกลุ่มแนวร่วมสิทธิมนุษยชนพลเรือน (CHRF) หลังจากได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จัดการชุมนุม โดยเป็นการอนุญาตครั้งแรกในรอบกว่า 4 เดือน

ทางองค์กรเปิดเผยว่ามีประชาชนชาวฮ่องกงออกมาเดินขบวน 800,000 ราย ขณะที่ตำรวจคาดการณ์ว่ายอดตัวเลขอยู่ที่ 183,000 ราย

· ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันนี้หลังจากข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าการส่งออกของจีนลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความต้องการทั่วโลก ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

น้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.3% ที่ระดับ 64.18 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากเพิ่มขึ้น 3% เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากข่าวที่ว่าโอเปกและกลุ่มพันธมิตรจะลดกำลังการผลิตลง

น้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 30 เซนต์ หรือ 0.5% ที่ระดับ 58.90 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่เพิ่มขึ้นประมาณ 7% ในสัปดาห์ที่แล้ว จากแนวโน้มการผลิตที่ลดลงของกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตที่เกี่ยวข้องรวมถึงรัสเซีย



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com