• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2562

    16 ธันวาคม 2562 | Economic News


· ตลาดค่าเงินมีการตอบรับที่ค่อนข้างเบาบางกับความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน โดยส่วนหนึ่งยังมีความกังวลเนื่องจากรายละเอียดของข้อตกลงยังไม่ได้รับการเปิดเผยออกมามากนัก และอีกส่วนหนึ่งเลี่ยงการเปิดสถานะสำคัญ เนื่องจากวันหยุดในช่วงเทศกาลคริสต์มาสกำลังใกล้เข้ามา

นักกลยุทธ์ FX จาก National Australia Bank มีมุมมองว่า ตลาดบางส่วนผิดหวังกับการประกาศความสำเร็จของการเจรจา เนื่องจากไม่ต่างอะไรไปจากที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นข่าวที่ดี เนื่องจากแนวโน้มที่ความตึงเครียดในอนาคตจะขยายตัวได้ลดน้อยลงไป ขณะที่การยกเลิกการขึ้นภาษีของทั้งสองฝ่าย ถือว่าค่อนข้างเล็กน้อย

· ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเคลื่อนไหวแถว 0.6878 ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ 0.6930 ดอลลาร์ ซึ่งขึ้นไปเมื่อวันศุกร์

ขณะที่ค่าเงินหยวนเคลื่อนไหวแถว 6.9959 หยวน/ดอลลาร์ อ่อนค่าขึ้นจากระดับแข็งค่าที่สุดในรอบ 6.9589 หยวน/ดอลลาร์ แต่ยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับสำคัญที่ 7 หยวน/ดอลลาร์

ค่าเงินทั้งสองได้รับแรงหนุนจากข้อมูลการผลิตและการบริโภคของจีนที่ประกาศออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อยในวันนี้

· ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าเล็กน้อยแถว 1.1129 ดอลลาร์/ยูโร เช่นเดียวกับค่าเงินเยนที่เคลื่อนไหวแถว 109.40 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่า 0.1% แถว 97.084 จุด

ส่วนค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.5% แถว 1.3386 ดอลลาร์/ปอนด์ ใกล้ระดับสูงสุดของวันศุกร์ ท่ามกลางแรงหนุนจากชัยชนะการเลือกตั้งอย่างขาดลอยของพรรคอนุรักษ์นิยม

· โดยนักวิเคราะห์จาก ANZ มองว่า ตลาดจะให้ความสนใจไปยัง Brexit และเดดไลน์ในวันที่ 31 ม.ค. เป็นอันดับต่อไป ซึ่งผลของการเลือกตั้งในอังกฤษน่าจะช่วยให้รัฐบาลสามารถดำเนินนโยบาย Brexit ได้อย่างราบรื่น

· นายโรเบิร์ต ไรท์ไฮเซอร์ ตัวแทนการค้าสหรัฐฯ ประกาศออกรายการ Face the Nation ของสำนักข่าว CBS โดยระบุว่า ข้อตกลงการค้ากับจีนในเฟสแรก “สำเร็จเป็นที่แน่นอนแล้ว” เหลือแค่การแปลและแก้ไขตัวอักษรเท่านั้น และข้อตกลงนี้จะช่วยให้การส่งออกของสหรัฐฯไปสู่ประเทศจีนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าภายในระยะเวลา 2 ปี

ความสำเร็จของข้อตกลงเฟสแรกได้รับการประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่สหรัฐฯและจีนพยายามเจรจาร่วมกันนานกว่า 2 ปีครึ่ง โดยภายใต้ข้อตกลงนี้ สหรัฐฯจะลดระดับภาษีของสินค้าจีนบางรายการ แลกกับการที่จีนเข้าซื้อสินค้าเกษตร อุตสาหกรรม และพลังงานจากสหรัฐฯมากขึ้นเป็นมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญภายใน 2 ปีข้างหน้า





· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯและเจ้าหน้าที่จากจีนเห็นพ้องกันเป็นที่เรียบร้อยสำหรับข้อตกลงเฟสแรก ที่หมายรวมถึงการที่สหรัฐฯปรับลดภาษีสินค้าจีน โดยสหรัฐฯได้ตัดสินใจระงับการขึ้นภาษี 1.6 แสนล้านเหรียญที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค. พร้อมกับมีการลดภาษีกึ่งหนึ่งเหลือ 7.5%

นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวยังครอบคลุมไปถึงเรื่องสินทรัพย์ทางปัญญา, การแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยี, การเกษตร, ภาคบริการการเงิน, ค่าเงิน และอัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศ

อย่างไรก็ดี นายทรัมป์ ประกาศว่า ข้อตกลงเฟส 2 จะเริ่มต้นเจรจาขึ้นในทันทีทันใด หากจีนมีความชัดเจนในก้าวต่อไปของการเจรจาที่ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับการทำข้อตกลงเฟสแรกร่วมกันเป็นสำคัญ





· ชัยชนะของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ดูะจทำให้ความหวังของ Brexit ที่ยืดเยื้อมากว่า 3 ปีครึ่ง เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นและมีความคาดหวังต่อการเข้าใกล้สิ้นสุดปัญหาดังกล่าว

ทั้งนี้ มีกระแสคาดการณ์ว่า ชัยชนะของพรรคอนุรักษ์นิยมดูจะช่วยคลายปัญหาข้อตกลงการค้าเสรีกับทางยุโรปได้ และนั่นได้ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์และหุ้นอังกฤษปรับตัวสูงขึ้น โดยเงินปอนด์กลับมายืนได้เหนือ 1.35 ดอลลาร์/ปอนด์

ขณะเดียวกันบีโออีมีกำหนดการประชุมในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ซึ่งตลาดให้ความสำคัญกับทิศทางเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจอังกฤษ รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยปี 2020 ซึ่งคาดว่าบรรดาสมาชิกบีโออีน่าจะยังมีท่าทีผ่อนคลายการเงินอยู่ อันเนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่สดใสนัก ขณะที่เงินเฟ้อก็ยังคงอ่อนตัว แต่สำหรับผลการเลือกตั้งนั้นดูจะช่วยจุดประกายความหวังต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอังกฤษอีกครั้ง และช่วยลดโอกาสจะเห็นบีโออีลดดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปี 2020 สู่ระดับ 25% ลดน้อยลงไป

อย่างไรก็ดี การปราศจากความชัดเจนมากกว่านี้ก็ดูจะทำให้นักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลอยู่บ้าง จึงอาจกดดันการแข็งค่าของเงินปอนด์เมื่อไม่นานมานี้ได้



· บรรดาตัวแทนการค้าระดับสูงของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้พบกันในวันนี้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ญี่ปุ่นประกาศควบคุมการส่งออกสินค้าไปยังเกาหลีใต้ ส่งผลให้เกิดเป็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ รวมถึงกระทบเศรษฐกิจเกาหลีใต้ และห่วงโซ่อุปทานของชิฟประมวลผลทั่วโลก

ญี่ปุ่นมีความกังวลว่า เกาหลีใต้มีความหละหลวมด้านการควบคุมสินค้าในกลุ่มวัตถุดิบประกอบเซมิคอนดักเตอร์ และสินค้าในกลุ่มดังกล่าวอาจถูกส่งต่อไปยังเกาหลีเหนือ



· นายหลี เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน พบกับนางแครี แลม ผู้นำฮ่องกง ในวันนี้ พร้อมระบุว่าเหตุความตึงเครียดในฮ่องกงยังไม่ได้คลี่คลายลง แม้กำลังจะยืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่ 7 โดยการพบกันระหว่างผู้นำฮ่องกงและนายกฯจีนวันนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะสานต่อไปยังการพบกันระหว่างผู้นำฮ่องกงและนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเป็นอันดับต่อไป

สถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจได้มีการยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันอาทิตย์



· ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน Blockchain มีมุมมองว่า จีนมีแนวโน้มสูงที่จะกลายเป็นผู้นำด้านระบบ Blockchain ซึ่งอาจทำให้จีนสามารถควบคุมทิศทางของการพัฒนาและการใช้งานระบบดังกล่าวภายในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากมหาอำนาจอื่นๆอย่างสหรัฐฯ หรืออียู ไม่ได้เข้ามาให้การสนับสนุนระบบ Blockchain อย่างเปิดกว้างเหมือนกับจีน

โดยผู้เชี่ยวชาญถือว่านี่เป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ไม่ใช่แค่ในประเทศจีนเท่านั้น แต่รวมถึงไปถึงทั้งโลก โดยนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้เคยกล่าวไว้ว่า การพัฒนาระบบ Blockchain มีความสำคัญเทียบเท่ากับการพัฒนา AI และหุ่นยนต์



· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ที่ขึ้นไปได้เมื่อสัปดาห์ก่อน เนื่องจากนักลงทุนมองหาความชัดเจนของข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่คาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ

ราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.2% ที่ระดับ 65.12 เหรียญ/บาร์เรล ในขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 10เซนต์ หรือ 0.2% ที่ระดับ 59.97 เหรียญ/บาร์เรล


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com