· ราคาทองคำทรงตัวท่ามกลางการอ่อนค่าของดอลลาร์ และกลุ่มนักลงทุนที่รอคอยความชัดเจนของข้อตกลง “เฟสแรก” ระหว่างสหรัฐฯและจีน และผลดังกล่าวดูจะช่วยชดเชยการปรับตัวขึ้นที่แข็งแกร่งของตลาดหุ้นได้บ้าง โดยราคาทองคำตลาดโลกปิดทรงตัวแถว 1,476.19 เหรียญ หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วปรับขึ้นได้กว่า 1.1%
สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิดค่อนข้างทรงตัวเช่นกันบริเวณ 1,480.5 เหรียญ
· หัวหน้านักกลยุทธ์จาก TD Securities กล่าวว่า ข้อตกลงการค้าที่เกิดขึ้นไม่ได้หมายความถึงปัจจัยที่ดีขึ้น แต่หมายถึงการช่วยพยุงไม่ให้เศรษฐกิจทั้งสองฝ่ายชะลอตัวลงมากไปกว่านี้ ซึ่งภาพรวมก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ ขณะที่ยอดขาดดุลการค้าก็ยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำ และภาวะความเสี่ยงทางการเมืองของสหรัฐฯด้วย และทั้งหมดนี้ก็ดูจะเป็นองค์ประกอบที่ดีต่อกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการทองคำในพอร์ต
· ความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯและจีนสามารถบรรเทาข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างกันได้ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่สหรัฐฯทำการลดภาษีสินค้านำเข้าจีนบางส่วนเพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่จีนจะทำการซื้อสินค้าเกษตรและสินค้าอื่นๆจากสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้น
· นักวิเคราะห์จาก FXTM ระบุว่า ข้อตกลงการค้าล่าสุดที่หนุนให้เกิดการปรับขึ้นของตลาดหุ้น ก็ดูจะไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดแรงเทขายครั้งใหญ่ในทองคำได้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับรายละเอียดของข้อตกลง และรอดูว่าข้อตกลงเฟสแรกนั้นจะช่วยลดแรงกดดันขาลงต่อภาวะเศรษฐกิจโลกในช่วงเข้าสู่ปี 2020 อย่างไร ซึ่งความกังวลทั้งหมดนี้ดูจะทำให้ราคาทองคำยังคงทรงตัวได้ดี
· หัวหน้านักกลยุทธ์จาก SIA Wealth Management วิเคราะห์ว่า ปีหน้าตลาดทองคำดูจะให้ความสำคัญกับสัญญาณว่าเฟดและธนาคารกลางอื่นๆจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยเช่นไร หลังจากที่ล่าสุดเฟดตัดสินใจคงดอกเบี้ย แต่ก็ยังดูเหมือนมีสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินอยุ่บ้าง ซึ่งหากเราเห็นเฟดเลือกจะตัดดอกเบี้ยต่อในปีหน้าก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนทองคำ และทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า
· นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered กล่าวว่า เฟดน่าจะยังคงดอกเบี้ยอยู่ในปีหน้า แต่ทิศทางเศรษฐกิจโลกดูจะเริ่มชะลอตัวตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ นั่นหมายความว่ายังมีโอกาสที่จะเห็นเฟดปรับลดดอกเบี้ยลงได้ในปี 2021 ท่ามกลางดอลลาร์ที่มีแนวโน้มอ่อนค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ดูจะอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2020 ซึ่งปัจจัยระดับมหภาคนั้นก็ดูจะช่วยสนับสนุนทองคำได้ดีในช่วงครึ่งปีหลังดังกล่าว
· นักวิเคราะห์จาก Price Futures Group มองว่า เฟดดูจะให้ความสำคัญกับเรื่องเงินเฟ้อ ซึ่งเฟดก็ส่งสัญญาณถึงการพร้อมปล่อยให้เงินเฟ้อนั้นเพิ่มขึ้น โดยหากเงินเฟ้อที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% มีการปรับขึ้นได้มากกว่าที่ 3 – 4% ก็ดูจะช่วยสนับสนุนทองคำอีกเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนจะเข้าซื้อทองคำเพื่อเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่ดัชนีราคาปรับตัวขึ้น และผลที่ตามมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อเราอาจเห็นดอลลาร์อ่อนค่าตามลงมาได้
· กองทุนทองคำ SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 886.22 ตัน
· ราคาพลาเดียมปิด +2.4% ที่ 1,977.28 เหรียญ หลังจากไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,991.38 เหรียญ ทางด้านราคาแพลทินัมปิด +0.1% ที่ระดับ 928.93 เหรียญ ในขณะที่ราคาซิลเวอร์ปิด +0.7% ที่ 17.05 เหรียญ