· นายทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 3 ที่ถูกลงมติไต่สวนเพื่อปลดออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯที่มีพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก มีมติโหวตสนับสนุนการไต่สวนไปด้วยคะแนนเสียงที่ล้มหลาม
· นักวิเคราะห์จาก ANZ มองว่า ประเด็นการไต่สวนวันนี้ ได้ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับทิศทางทางการเมืองขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ประกอบกับการที่ราคายังเผชิญแรงกดดันด้านอื่นๆ อย่างตลาดหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีน และตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง โดยที่การตอบสนองต่อประเด็นการไต่สวนวันนี้ค่อนข้างเบาบาง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่
· นักวิเคราะห์จาก DailyFx มีมุมมองว่า ตลาดไม่คาดคิดว่าทางวุฒิสภาจะสนับสนุนการไต่สวน แต่ถ้าเกิดพวกเขาสนับสนุนขึ้นจริง การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปีหน้าก็จะกลายเป็นปัจจัยที่ไม่มีความแน่นอนอย่างมาก ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำได้รับแรงหนุนและปรับตัวสูงขึ้น
อีกปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ คือการที่กระทรวงการคลังจีนประกาศยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 6 รายการ โดยจะมีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 26 ธ.ค. นี้
· สมาชิกเฟด 2 ราย กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯยังเป็นไปในเชิงบวกหลังจากที่เฟดได้ตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยลงมาถึง 3 ครั้งในปีนี้ จึงยิ่งตอกย้ำถึงมุมมองที่เฟดน่าจะยังคงดอกเบี้ยต่อไปในเวลานี้
· ข้อมูลภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯในเดือน พ.ย. ที่ประกาศออกมาสดใสเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ ยังเป็นปัจจัยที่สนับสนุนความคิดเห็นดังกล่าวของสมาชิกเฟด
· กองทุน SPDR เพิ่มการถือครองทองคำเมื่อวานนี้อีก 0.3% สู่ระดับ 883.29 ตัน
· CEO แห่งสถาบัน Euro Pacific Capital มีมุมมองว่า การที่เฟดพยายามผ่อนคลานโยบายลงผ่านการปรับพอร์ตงบดุล จะเป็นปัจจัยที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อขยายตัว และหนุนราคาทองคำ
ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่า ราคาทองคำปีหน้าจะปรับสูงขึ้น โดยอาจมีการปรับขึ้นที่รวดเร็วตั้งแต่ระดับ 1,500 เหรียญ ไปจนถึงระดับ 2,000 เหรียญ ได้เลยทีเดียว
สำหรับแนวโน้มที่เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัว เชื่อว่ายังไม่ได้จางหายไปไหน และเศรษฐกิจก็กำลังมุ่งหน้าไปสู่การชะลอตัวที่อาจจะล่าช้าออกไปสักหน่อย แต่เมื่อไหร่ที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะชะลอตัว มันจะส่งผลกระทบที่ “รุนแรง” ยิ่งกว่าคราวก่อน
· รายงานจาก FXStreet ระบุว่า นักลงทุนทั่วโลกกำลังรอคอยผลลัพธ์จากเหตุการณ์และข้อมูลต่างๆ โดยราคาทองคำเคลื่อนไหวใกล้ 1,475 เหรียญในตลาดเอเชีย
ด้านสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ทำการโหวตผ่านร่างการไต่สวนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจะเข้าสู่กระบวนการต่อไปในวุฒิสภาอีกครั้ง ด้านข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่ตลาดทองคำให้ความสนใจคือท่าทีของบรรดาสมาชิกเฟดเมื่อวานนี้ที่เป็นไปในเชิงบวก และดูจะช่วยหนุนให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าได้ จึงเป็นปัจจัยที่เข้ากดดันทองคำขาลง ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี และดัชนี S&P500 ก็มีท่าทีระมัดระวังและส่งผลต่อนักลงทุนในตลาดเช่นกัน
ในทางเทคนิคราคาทองคำจะมีเส้นค่าเฉลี่ย EMA ราย 21 วัน ซึ่งเป็นระดับแนวรับที่ 1,471 เหรียญด้วย ซึ่งอาจต้องรอระดับราคาเพื่อทำการเข้าซื้ออีกครั้ง เพราะหากราคา Break สูงสุดเดิม 1,489 เหรียญได้ก็จะทำให้ทองคำมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ
· Gold Price Analysis
บทวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่า ราคาทองคำได้เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆมาตลอดช่วง 3 วำทำการ ต่ำกว่าระดับ 1,480 เหรียญและเส้นค่าเฉลี่ยราย 50 วัน
ดังนั้น แนวต้านแรกของราคาจะอยู่ที่ระดับ 1,480 – 1,485 เหรียญ ซึ่งตลาดน่าจะรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามาถึงจะสามารถปรับขึ้นเหนือระดับนี้ได้ หากปรับขึ้นมาได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,494 และ 1,510 เหรียญ
ในทางกลับกัน หากมีแรงเทขายเข้ามา ราคาทองคำอาจปรับลดลงโดยมีแนวรับที่ระดับ 1,460 – 1,450 เหรียญ
· FX Empire ระบุว่า ราคาทองคำค่อนข้างผันผวนและมีการเคลื่อนไหวเป็นลักษณะ Sideways โดยที่ระดับแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย MA 50 วัน อยู่ที่ 1,477 เหรียญ และมีแนวรับระยะสั้นบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย MA10 วัน ที่ 1,470 เหรียญ และดูราคาทองคำจะมีภาพค่อยๆกลับเป็นขาขึ้นตั้งแต่ยืนเหนือ 1,462 เหรียญได้ ทางด้านภาพระยะสั้นทองคำมีสัญญาณบวกมากขึ้น แต่ก็จะยังอยู่ในกรอบไปก่อน รวมทั้งภาพระยะกลางก็เป็นไปในเชิงบวกบ้าง โดยทองคำจะบ่งบอกทิศทางที่ชัดเจนต้อง Break ด้านใดด้านหนึ่งได้ขณะที่ความผันผวนของทองคำในเวลานี้แตะระดับต่ำสุดของปีนี้
· ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.4% แถว 1,930.18 เหรียญ โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ราคาได้ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,998.43 เหรียญ และยังมีโอกาสที่จะปรับขึ้นระดับ 2,000 เหรียญได้ เนื่องจากภาวะขาดแคลนอุปทานยังคงอยู่
ราคาซิลเวอร์ปรับลดลง 0.1% แถว 16.99 เหรียญ ส่วนราคาแพลทินัมปรับลดลง 0.4% แถว 931.68 เหรียญ