MTS Help Center

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ หลังถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงการค้าเฟสแรกจะลงนามการค้าได้ในช่วงต้นเดือนม.ค.

ดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้น 137.68 จุด หรือ +0.49% ที่ระดับ 28,376.96 จุด ทางด้านดัชนี S&P500 ปิด +0.45% ที่ระดับ 3,205.37 จุด ทางด้าน Nasdaq ปิด +0.67% ที่ 8,887.22 จุด

สำหรับดัชนี S&P500 ปิดปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 6 วันทำการ ซึ่งถือเป็นระดับการทำ All-Time High ที่ยาวนานที่สุดตั้งแต่ม.ค. ปี 2018 ทางด้าน Nasdaq ปิดปรับขึ้นต่อเนื่อง 7 วันทำการ ขณะที่ภาพรวมทั้ง 3 ดัชนียังคงปิดทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้

· ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัว ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ตอบรับกับข้อมูลที่ผสมผสานกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อมูลเศรษฐกิจ การตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางต่างๆ และเรื่องไต่สวนประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงดอกเบี้ยที่ระดับ 075% ท่ามกลางมติ 7:2 ตามคาด พร้อมปรับลดจีดีพีอังกฤษจาก 0.2% สู่ระดับ 0.1% สำหรับไตรมาสที่ 4/2019 และยังมีการระบุถึงหากภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกยังคงล้มเหลว หรือ Brexit ยังมีความไม่แน่นอน การดำเนินนโยบายการเงินก็ดูจะต้องปรับใช้ให้เหมาะสมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอังกฤษ

· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ท่ามกลางตลาดสหรัฐฯที่ยังคงปิดทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ จากข่าวเชิงบวกต่อข้อตกลงการค้าที่หนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน โดยดัชนีนิกเกอิเปิดทรงตัว แต่ Topix เปิด -0.15% ทางด้านKospi เกาหลีใต้เปิดทรงตัวเช่นกัน

· นักบริหารเงินประเมินกรอบความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ระหว่าง 30.18-30.25 บาท/ดอลลาร์ โดยทิศทางทรงตัวรอปัจจัยใหม่เข้ามา ประกอบกับเป็นช่วงใกล้วันหยุดในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ตลาดค่อนข้างเงียบ

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ไทย เปิดเผยถึงแผนผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการไทยในปี 63 ว่า กรมฯ ได้เตรียมแผนเจาะตลาดเชิงลึก นอกจากนี้จะเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการส่งออก ทั้งการร่วมมือกับผู้นำเข้ากิจกรรมกระตุ้นความต้องการสินค้าและบริการที่มีศักยภาพ, เพิ่มและขยายช่องทางออนไลน์เพื่อสร้างโอกาสส่งออกให้กับสินค้าไทย คาดว่าจะมีส่วนทำให้

มูลค่าการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นได้ โดยส่วนตัวมองว่า น่าจะขยายตัวเป็นบวกได้ แต่จะบวกเท่าไร ยังบอกไม่ได้ ต้องรอให้ประเมินสถานการณ์ส่งออกของไทยในประเทศต่าง ๆ และกำหนดเป้าหมายอย่างเป็นทางการก่อน

- กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ได้ออก "มาตรการ EXIM เสริมสภาพคล่องผู้ส่งออก" และ "มาตรการ EXIM ลดภาระในการชำระหนี้" เพื่อช่วยผู้ส่งออก SMEs ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบันของ EXIM BANK ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ให้มีสภาพคล่องมากขึ้นสำหรับนำไปใช้ในกิจการและได้รับการบรรเทาภาระในการชำระหนี้ในภาวะที่อาจได้รับคำสั่งซื้อลดลง แต่ยังคงมีภาระของต้นทุนคงที่ที่กิจการต้องจ่ายทุกเดือน หรือเมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามา ก็สามารถนำมาเบิกใช้สินเชื่อหมุนเวียนได้ รวมทั้งใช้ในการปรับปรุงสินค้าและบริการให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น พร้อมที่จะแข่งขันท่ามกลางตลาดโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงในปี 63