· ตลาดหุ้นเอเชียทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน เนื่องจากเข้าสู่วันหยุดในช่วงเทศกาลคริสมาสต์ รวมทั้งเหล่านักลงทุนที่ดูเหมือนจะพอใจที่ได้รับผลกำไรที่ได้ทำไปแล้วในเดือนนี้
โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นทรงตัว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.2% ในสัปดาห์นี้ และภาพรวมรายเดือนปรับตัวสูงขึ้นได้กว่า 5%
ขณะที่ความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงการค้าเฟสแรกจะลงนามการค้าได้ในช่วงต้นเดือนม.ค.
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนมีการเทขายทำกำไรในหุ้นรายใหญ่ๆ หลังจากที่ดัชนีขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งยังคงเฝ้ารอความชัดเจนของข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อน
โดยดัชนี Nikkei ปิด -0.20% ที่ระดับ 23,816.63 จุด ภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนีปรับลดลง 0.9% หลังจากที่ปรับขึ้นได้ติดต่อกัน 3 สัปดาห์ ส่วนดัชนี Topix วันนี้ปิด -0.18% ที่ระดับ 1,733.07 จุด
· ตลาดหุ้นจีนปิดแดนลบ แต่ในภาพรวมรายสัปดาห์สามารถปรับสูงขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นหลังจากสหรัฐฯและจีนประกาศว่าบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกได้เมื่อสัปดาห์ก่อน
โดยดัชนี Blue-chip CSI300 ปิด -0.3% ที่ระดับ 4,017.25 จุด ภาพรวมรายสัปดาห์ปรับปิด +1.2% ขณะที่ดัชนี Shanghai Composite Index ปิด -0.4% ที่ระดับ 3,004.94 จุด ภาพรวมรายสัปดาห์ปิด +1.23%
· ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่เปิดปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงก่อนหน้าที่ได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกสงครามทางการค้าสหรัฐฯ-จีน
โดยดัชนี Stoxx600 เพิพ่มขึ้น 0.1% ด้านหุ้นสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น 0.4% ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารลดลง 0.2%
อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ
- “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี เผย “ตอนนี้เครื่องมือทางนโยบายการคลัง เชิงกระตุ้นเศรษฐกิจแทบจะเต็มแล้ว ทั้งยังมีเรื่อง พ.ร.บ.วินัยการคลัง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง เป็นข้อจำกัด เหลือพียงนโยบายการเงิน คือ อัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาท รัฐบาลไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องได้อยู่แล้ว เพราะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นอิสระ แต่ถ้าขับเคลื่อนไปด้วยกันได้จะทำให้เกิดการเจริญเติบโต”
“ถ้าค่าเงินบาทแข็งหนักก็ต้องมีวิธีการทำให้อ่อนค่าลง จะด้วยวิธีการอะไรก็แล้วแต่ ผมไม่ก้าวก่าย แต่ต้องหาทางให้อ่อนค่าลง เพื่อนำไปสู่ระดับที่สามารถทำให้เงินบาทมีค่ามากขึ้น เช่น การส่งออกสินค้าเกษตร”
“ธปท.มีเครื่องมืออยู่แล้ว โดยใช้นโยบายการเงิน เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเสริมนโยบายการคลัง กระทรวงการคลับกับ ธปท.ต้องหารือกันมากกว่านี้ เพราะขณะนี้การส่งออกภาคเกษตรก็แย่ลง ภาคท่องเที่ยว สุดท้ายส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และกระทบต่อรายได้ของรัฐบาล”