• การเจรจาทรัมป์ Vs จิ้นผิง กระตุ้นตลาดหุ้นขึ้นต่อปีหน้า

    23 ธันวาคม 2562 | SET News
  

นักกลยุทธ์ ระบุว่า ข้อตกลงทางการค้าที่ใกล้บรรลุ ท่ามกลางตลาดหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ปลายปีนี้ และตลาดอาจจะได้รับแรงหนุนในช่วงไตรมาสแรกก่อนที่จะหยุดชั่วคราว

โดยการประกาศในช่วงกลางเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าในเฟสแรกช่วยหนุนการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้น หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวเ้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ได้มีการเจรจาที่ดีมากกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน

เมื่อความตึงเครียดทางการค้าเบาบางลง ภาคการผลิตทั่วโลกก็เริ่มมีสัญญาณของการปรับปรุงเช่นกัน จึงช่วยหนุนความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุน ด้านตลาดตราสารหนี้ซึ่งไม่ได้เตือนถึงภาวะถดถอยอีกต่อไป เมื่ออัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ขณะที่เฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าไม่มีแนวโน้มจะดำเนินการใดๆในปีหน้าท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อระดับต่ำ

ตลาดไม่ได้ให้การตอบรับเกี่ยวกับประเด็นการไต่สวนนายทรัมป์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเท่าไหร่นัก เนื่องจากคาดว่าเขาจะได้รับการพ้นข้อหาและจะไม่มีผลกระทบเชิงลบที่มีผลต่อนโยบายการคลังหรือการเงิน

สำหรับตลาดหุ้นในเดือนธันวาคมนี้ ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา และปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงไตรมาสที่ 4 นับตั้งแต่ปี 2013 โดัยดัชนี S&P500 สามารถยืนเหนือระดับจิตวิทยาที่บริเวณ 3,200 เมื่อสัปดาห์ก่อน ภาพรวมเดือนนี้ปรับตัวสูงขึ้นได้ 2.5% และภาพรวมรายปีสามารถปรับขึ้นได้ถึง 28.5%


ในช่วงไตรมาสแรก

นักวิเคราะห์ ระบุว่า ในช่วงไตรมาสแรกตลาดอาจจจะได้รับความวุ่นวาย เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในรัฐ Iowa ช่วงวันที่ 3 ก.พ. รัฐ New Hampshire ในสัปดาห์ต่อไป และ Super Tuesday ในวันที่ 3 มี.ค. 63 ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยชี้นำในการเลือกตั้งเดือนพ.ย.ได้

นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจัยทางเศรษฐกิจดูเหมือนจะเป็นข้ออ้างของตลาดในการที่จะเคลื่อนไหวแบบสะสมพลังรอความชันเจนไปก่อน ขณะที่ทางตัวแทนจากฝั่งเดโมแครตส่วนใหญ่ต่างให้สัญญาที่ดูจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับเศรษฐกิจสักเท่าไหร่ โดยบางส่วนเสนอให้เพิ่มอัตราภาษีของภาคบริษัท หากเป็นเช่นนั้น ผลประกอบการของดัชนี S&P 500 อาจลดลง 1% ทุกๆ 1% ของอัตราภาษีที่ถูกเพิ่ม

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า ภาพรวมในปีหน้าตลาดจะอยู่ในทิศทางเชิงบวก

ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยประจำ Ironsides Macroeconomics คาดว่าตลาดจะอยู่ในทิศทางเชิงบวกเช่นเดียวกัน แต่น่าจะเป็นช่วงปลายเดือนเม.ย.

เนื่องจากภาคผลิตและการค้าทั่วโลกยังคงมีเสถียรภาพไปอีก 3 หรือ 4 เดือนข้างหน้า สิ่งที่สองคือสภาพคล่องหลังเฟดมีมติให้เข้าซื้อตั๋วเงินคลัง (T-bill) ครั้งละ 60,000 ล้านเหรียญ เริ่มกลางเดือนต.คและพ.ย.ไปจนถึงไตรมาสที่ 2 ปี 2020

รวมทั้งการเติบโตของค่าจ้างที่จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งปัจจัยทั้ง 3 สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยหนุนไปจนถึงเดือนเม.ย.

ขณะที่นักวิเคราะห์ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นของตลาด ว่าอาจเป็นการลงทุนแบบสวนกระแส โดยอาจเป็นการที่ตลาดหันเข้ามาลงทุนโดยหวังผลตอบแทนในปีหน้ามากกว่าหรือไม่?

มีข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ สำหรับช่วงวันหยุดในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดการขายบ้านใหม่ ในวันจันทร์และสินค้าคงทนในวันอังคาร ขณะที่ตลาดจะปิดทำการเนื่องในเทศกาลวันคริสต์มาส ก่อนที่กลับมาเปิดอีกครั้งในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์


ที่มา: CNBC

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com