· ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์แห่งเทศกาล หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯก็ยังอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง ขณะที่เงินปอนด์ทรงตัวได้อย่างมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากที่ปรับตัวลงรายสัปดาห์ที่มากที่สุดในรอบ 3 ปี
ทั้งนี้ ข้อมูลจีดีพีสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ยังคงเป็นปัจจัยที่หนุนค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้ปานกลางแตะ 2.1% ในช่วง Q3/2019 เพราะได้รับแรงหนุนหลักจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
นักเศรษฐศาสตร์ฝ่ายการตลาดจาก Sumitomo Mitsui Trust Bank กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯดูจะบ่งชี้ถึงการหยุดภาวะชะลอตัว และยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ใดๆที่ระบุว่าจะเผชิญกับภาวะถดถอย
ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ 97.682 จุด โดยฟื้นตัวหลังจากที่ลงไปทำต่ำสุดรอบ 5 เดือนเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. บริเวณ 96.605 จุด ขณะที่ค่าเงินยูโรก็ทรงตัวบริเวณ 1.10775 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากไปทำแข็งค่ามากที่สุดรอบ 4 เดือนเมื่อ 13 เธ.ค. บริเวณ 1.12 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินเยนทรงตัวที่ 109.47 เยน/ดอลลาร์
รายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ ระบุว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือมีการเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ทางการทหารระดับสูงเพื่อหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนขีดความสามารถทางการทหารของประเทศ ซึ่งข่าวดังกล่าวดูจะตอกย้ำกับความกังวลเกี่ยวกับการที่เกาหลีเหนืออาจไม่กลับมาเจรจากับทางสหรัฐฯ
· ข้อมูลยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯออกมาไม่ค่อยดีนักในเดือนพ.ย. ขณะที่ยอดส่งออกสินค้าทางเรือปรับตัวลง จึงบ่งชี้ว่า การลงทุนในภาคธุรกิจอาจยังเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาสที่ 4/2019 ได้
ทั้งนี้ ภาวะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนดูจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและตอกย้ำค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน เพราะถึงแม้ความตึงเครียดดังกล่าวจะผ่อนคลายลงไปแต่ผลสำรวจภาคการผลิตในประเทศก็ดูจะสะท้อนว่า ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของสหรัฐฯยังคงหดตัวในเดือนธ.ค.
ขณะที่ภาคการผลิตกำลังชะลอตัว ในขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างทรงตัว โดยดูจะได้รับอานิสงส์จากการปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ กล่าวว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย. ออกมาแย่กว่าที่คาดที่ระดับ 719,000 ยูนิต ขณะที่เดือนต.ค. ปรับทบทวนลงสู่ 710,000 ยูนิต
นักเศรษฐศาสตร์จาก Citigroup คาดว่า กิจกรรมภาคที่อยู่อาศัยยังได้รับแรงหนุนจากอัตราจดจำนองที่ปรับตัวลง ขณะที่เฟดคงดอกเบี้ย แต่เราน่าจะเห็นตลาดที่อยู่อาศัยปรับตัวขึ้นได้ในช่วงปี 2020
· จีนเตรียมทำการปรับลดสินค้าตั้งแต่เนื้อหมู, อโวคาโด และชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฮเทคเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจจีนในปีหน้า ท่ามกลางการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและปัญหา Trade War กับสหรัฐฯ
ทั้งนี้ จีนจะละเว้นภาษีสินค้านำเข้าชั่วคราวกับสินค้า 850 รายการ เมื่อเทียบกับการละเว้นอัตราภาษี 706 รายการที่ละเว้นชั่วคราวในปี 2019
· ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ท่ามกลางรัสเซียที่ระบุว่า บรรดาผู้ผลิตโอเปกอาจพิจารณาผ่อนปรนการปรับลดกำลังการผลิตปีหน้า จึงบดบังปัจจัยสนับสนุนจากมุมมองเชิงบวกจากข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่อาจลงนามร่วมกันได้ในเร็วๆนี้
น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 28 เซนต์ หรือ +0.4% ที่ระดับ 66.42 เหรียญ/บาร์เรล ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางในช่วงเทศกาลคริสมาสต์ น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 8 เซนต์ ที่ระดับ 60.52 เหรียญ/บาร์เรล