· ตลาดหุ้นเอเชียปรับสูงขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากตลาดรายใหญ่ในภูมิภาคอย่างฮ่องกง เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ยังคงปิดทำการในช่วงวันหยุดยาว โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับขึ้น 0.11%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น จากความหวังเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐฯและจีนในช่วงปีใหม่
โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.6% ที่ระดับ 23,924 จุด สำหรับภาพรวมรายปีดัชนีปรับตัวสูงขึ้นได้ 19.5% ด้านดัชนี Topix เพิ้มขึ้น 0.57%
ทั้งนี้ การปรับตัวสูงขึ้นของตลาดหุ้นเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง เนื่องจากตลาดคาดหวังที่จะเห็นจุดจบของสงครามการค้า ที่เป็นปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นของตลาด และการขยายตัวของเศรษฐกิจมาตลอดปีนี้
· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่จีนส่งสัญญาณถึงแผนการที่จะเปิดอิสระทางการเงินให้ระบบธนาคารในประเทศมากขึ้น ในความพยายามเพื่อกระตุ้นการให้กู้กับธุรกิจขนาดเล็ก
โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.9% ที่ระดับ 3,007.35 จุด
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ประจำเดือนพ.ย.62 พบว่า เศรษฐกิจไทยได้รับแรงสนับสนุนจากเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยการบริโภคภายในประเทศที่สะท้อนจากการขยายตัวต่อเนื่องของยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ บนฐานการใช้จ่ายภายในประเทศ และเศรษฐกิจด้านอุปทานจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจภายนอกประเทศส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าชะลอตัว ส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี
ทั้งนี้ เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชนในภาพรวมยังคงขยายตัว โดยสะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ บนฐานการใช้จ่ายในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง 3.7% ต่อปี เช่นเดียวกับปริมาณนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัว 1.3% ต่อปี นอกจากนี้ รายได้เกษตรกรที่แท้จริงขยายตัว 1.8% ต่อปี อย่างไรก็ตาม ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ชะลอตัว -6.8% ต่อปี ขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งชะลอตัว -16.4% ต่อปี
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 57.9 เป็นผลมาจากการการชะลอตัวของการส่งออกสินค้าของไทย และความกังวลจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชนส่งสัญญาณชะลอตัว โดยการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรสะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุนชะลอตัว -11.2% ต่อปี เช่นเดียวกับปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ชะลอตัวที่ -16.1% ต่อปี ส่วนการลงทุนในหมวดก่อสร้างปรับตัวดีขึ้นแต่ก็ยังชะลอตัว โดยยอดการจัดเก็บภาษีการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว -6.3% ต่อปี เช่นเดียวกับปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ชะลอตัวที่ -2.2% ต่อปี ส่วนดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างชะลอตัวที่ -3.1% ต่อปี โดยมีสาเหตุมาจากราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กปรับตัวลดลง
เศรษฐกิจภาคการค้าระหว่างประเทศชะลอตัว สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ชะลอตัวที่ -7.4% ต่อปี เป็นผลจากการชะลอตัวของการส่งออกในหมวดสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ ทองคำ ข้าว ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง กุ้งสดแช่แข็งและแปรรูป อย่างไรก็ตาม สินค้าในกลุ่ม ผัก ผลไม้ สด แช่แข็งและแปรรูป น้ำตาลทราย เครื่องดื่ม ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับที่ไม่รวมทองคำ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์รักษาผิว ยังคงขยายตัวได้ และตลาดส่งออกสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และตะวันออกกลาง