· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นไปทำสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน และทำให้ระดับปิดสัปดาห์นี้น่าจะดีที่สุดในรอบเกือบ 4 เดือนท่ามกลางดอลลาร์อ่อนค่าและนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงก่อนปิดปีนี้
ราคาทองคำตลาดโลกทำระดับสูงสุดตั้งแต่ 4 พ.ย. บริเวณ 1,513.88 เหรียญ และสัปดาห์นี้ปรับตัวขึ้นได้กว่า 2% ซึ่งดีที่สุดตั้งแต่ช่วงต้นเดือนส.ค. ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ.ปรับขึ้น 0.2% แถว 1,517.6 เหรียญ
· นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสประจำสาขาเอเชียแปซิฟิกจาก OANDA กล่าวว่า ความต้องการสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงก่อนสิ้นปีดูจะช่วยทำให้ราคายืนเหนือ 1,485 เหรียญได้ ประกอบกับแรง Stop Loss Buying ก็เป็นอีกหนึ่งตัวที่ทำให้ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นแตะ 1,500 เหรียญได้ท่ามกลางสภาพคล่องในตลาดที่ค่อนข้างเบาบาง
· รายงานข่าวที่ว่ารัสเซียกำลังพิจารณาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนทองคำใน National Wealth Fund ประกอบกับการที่ดอลลาร์อ่อนค่าก็ดูจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนราคาทองคำได้
· รัฐมนตรีกระทรวงการคลังรัสเซีย กล่าวว่า การลงทุนในทองคำจะช่วยสร้างเสถียรภาพอย่างยั่งยืนในระยะยาวได้มากกว่าสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ
· นักกลยุทธ์จาก AxiTrader กล่าวว่า หากรัสเซียเริ่มต้นเพิ่มการถือครองทองคำจริงก็ดูเหมือนจะส่งผลดีต่อตลาดทองคำและเป็นปัจจัยขับเคลื่อนระดับมหพภาคได้
· ภาพรวมนักลงทุนก็ยังคงเข้าถือครองหุ้นเพิ่มจากการที่จีนเผยผลประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่เติบโตได้เร็วอย่างมากในรอบ 8 เดือนในเดือนพ.ย. แต่อุปสงค์ทั่วโลกยังอ่อนแอและมีความเสี่ยงจะกระทบต่อผลประกอบการภาคบริษัทในกลุ่มดังกล่าวในปีหน้าได้
· กองทุนทองคำ SPDR เพิ่มการถือครองทองคำอีก 0.4% ที่ 892.37 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำมากที่สุดตั้งแต่ 29 พ.ย.
· Gold Technical Analysis
ราคาทองคำในช่วงสายวันนี้เคลื่อนไหวแถวระดับ 1,512 เหรียญ ในภาพรวมรายสัปดาห์มีแนวโน้มปรับขึ้นได้ 2.22% ซึ่งอาจเป็นสัปดาห์ที่ราคาปรับขึ้นได้มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ของวันที่ 11 ส.ค. ที่ราคาปรับขึ้นได้ 3.93%
Breakout
จากราฟรายสัปดาห์จะเห็นได้ขึ้นการ Breakout ในทิศทางขาขึ้น บ่งชี้ว่าทิศทางขาลงจากระดับสูงสุด 1,555 เหรียญ ได้จบสิ้นลง และราคากลับสู่ทิศทางขาขึ้นโดยมีระดับต่ำสุดที่ 1,270 เหรียญ ของเมื่อเดือน เม.ย. – พ.ค. อีกครั้ง
สัญญาณ Breakout ครั้งนี้ บ่งชี้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มจะขึ้นไปทดสอบระดับ 1,557 เหรียญ ที่เป็นระดับสูงสุดของเดือน ก.ย. อีกครั้ง
อีกสัญญาณหนึ่งที่สนับสนุนทิศทางขาขึ้น คือเส้น RSI ที่ Breakout จากแนวโน้มทิศทางขาลงเช่นกัน
ทั้งนี้ หากราคาสามารถยืนเหนือระดับสำคัญที่ 1,483 เหรียญได้จนปิดตลาดสัปดาห์นี้ ก็จะเป็นการยืนยันถึงทิศทางขาขึ้นในภาพรวมรายสัปดาห์
· นักวิเคราะห์จาก DailyFX ระบุว่า ราคาทองคำดูจะปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่มีการ Downward-Sloping จากแนวต้านที่เป็นสูงสุดเมื่อ 4 ก.ย., 1 พ.ย. และ 12 ธ.ค. ในระดับรายวัน โดยสัญญาณ RSI เริ่มกลับมาทรงตัวแนว 50 จุดอีกครั้ง จึงมีโอกาสเห็นราคาปรับตัวขึ้นได้ก่อนที่ RSI จะยืนเหนือ 70 จุด ซึ่งเป็นภาวะ Overbought
ดังนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นราคาทองคำเคลื่อนไหวแถว 1,500 - 1,515 เหีรยญ โดยยังอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci Retracement 61.8% โดยหากผ่านไปได้มีโอกาสกลับขึ้นทดสอบ High ของปีนี้ที่ 1,555 เหรียญ
· รายงานจาก Business Insider ระบุว่า เมื่อวานนี้ราคาทองคำยืนเหนือ 1,500 เหรียญที่เป็ฯระดับแนวสำคัญทางจิตวิทยาได้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ยังคงมีแนวคิดว่าอาจเห็นเฟดคงดอกเบี้ยต่อในปี 2020
ทั้งนี้ การปรับตัวสูงขึ้นของทองคำยังมีสาเหตุมาจากการที่นักลงทุนพิจารณาถือสถานะ Long ในฐานะ Safe-Haven ท่ามกลางหุ้นและผลตอบแทนพันธบัตรที่ดูจะส่งท้ายปีในแดนบวก
ตลอดปีนี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้แล้วกว่า 17% ซึ่งทำให้ภาพรวมปีนี้เป็นปีที่ดีที่สุดตั้งแต่ปี 2010 ท่ามกลางความไม่แน่นอนของ Trade War และการที่บรรดาธนาคารกลางต่างๆหันมาเลือกใช้นโยบายปรับลดดอกเบี้ย แต่การที่เฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ย และสัญญาณที่นายทรัมป์กล่าวถึงการที่สหรัฐฯจะลงนามข้อตกลงร่วมกับจีนได้ในเร็วๆนี้ อาจทำให้การปรับขึ้นของทองคำชะงักงันได้
แต่หากเราเห็นการปรับลดดอกเบี้ยจากเฟดเพิ่มเติมก็อาจเห็นทองคำไปแตะ 1,600 เหรียญได้ แต่หากความเสี่ยงจากสภาวะถดถอยยังคงดำเนินต่อไปก็อาจเห็นทองคำปรับตัวขึ้นได้เหนือ 2,000 เหรียญ รวมทั้งทำ All-Time High ด้วย
Goldman Sachs และ UBS ต่างก็คาดการณ์ว่าจะเห็นราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้าและอาจไต่ระดับ 1,600 เหรียญได้ด้วยซ้ำ
ขณะที่มุมมมองจาก JP Morgan มองทองคำเป็นขาลงในปี 2020 และอาจเห็นทองคำถูกกดดันจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นต่อด้วย
· รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำสูงสุดรอบ 7 สัปดาห์ โดยยืนเหนือ 1,500 เหรียญได้ ท่ามกลางปีนี้ที่มีการปรับตัวสูงขึ้นได้อย่างดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010
แต่การปรับขึ้นของทองคำก็เผชิญกับการทำ New High ของหุ้นสหรัฐฯ และการรีบาวน์ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ควบคู่กับการแข็งค่าของดอลลาร์
หัวหน้านักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets กล่าวว่า ราคาทองคำดูจะยังเป็นขาขึ้นได้และน่าจะมีการเข้าซื้อเพิ่มในช่วงปีใหม่นี้ ขณะที่ตลาดพยายามจะปิดสถานะก่อนช่วงเวลาดังกล่าว
ขณะที่การปรับตัวขึ้นของทองคำ ต้องจับตาที่เฟดเป็นสำคัญว่าจะดำเนินการลดดอกเบี้ยหรือชะลอดอกเบี้ยในปีหน้าหลังจากที่ลดดอกเบี้ยลงมาแล้ว 3 ครั้งในปีนี้
หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดจาก AxiTrader มองว่า การปราศจากท่าทีผ่อนคลายทางการเงินของเฟดก็ดูจะลดโอกาสการปรับตัวขึ้นของทองคำได้
อย่างไรก็ดี คงต้องระมัดระวังการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเพราะอาจผันผวนได้ แม้ว่าตลาดจะมีการซื้อขายในระดับต่ำ โดยเฉพาะภาวะที่ Trade War ผ่อนกำลังลงไป และตลาดหุ้นก็ยังอยู่ในทิศทางเชิงบวก
นักวิเคราะห์จาก JPMorgan Chase & Co. แนะนำว่า ต้องจับตาภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำได้ ขณะที่ UBS Group AG มองว่าราคาทองคำมีโอกาสแตะ 1,600 เหรียญได้
· ราคาซิลเวอร์ปรับลง -0.2% ที่ 17.85 เหรียญ ขณะที่แพลทินัมปรับลง 0.4% ที่ 950.5 เหรียญ และพลาเดียมปรับขึ้น 0.4% ที่ 1,908.58 เหรียญ