• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 3 มกราคม 2563

    3 มกราคม 2563 | SET News
   
 

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง หลังจากที่เพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่ราคาทองคำและราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น หลังมีรายงานว่าผู้บัญชาการทางทหารของอิหร่านถูกสังหารจากการโจมตีทางอากาศ ณ สนามบินนานาชาติของกรุงแบกแดด ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการเมือง

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.ในช่วงเช้าที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ดัชนีปรับตัวลดลงจากรายงานความไม่แน่นอนระหว่างสหรัฐฯและอิหร่าน ทำให้ปรับลดลง 0.16%

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดีภาพรวมรายสัปดาห์สามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ เนื่องจากธนาคารกลางจีนประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงิน ด้วยการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของสถาบันการเงิน (RRR) ลง 0.50% ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 6ม.ค.นี้เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนภาวะเศรษฐกิจ แม้ว่าเหล่านักลงทุนจะได้รับแรงหนุนจากประเด็นการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนก็ตาม

โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.1% ที่ะรดับ 3,083.79 จุด

ขณะที่เหล่านักลงทุนคาดว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรก ระหว่างจีนและสหรัฐฯในวันที่ 15 ม.ค.นี้

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง เนื่องจากความไม่แน่นอนางการเมือง หลังจากที่สหรัฐฯสังหารผู้บัญชาการทางทหารของอิหร่านจากการโจมตีทางอากาศ ณ สนามบินนานาชาติของกรุงแบกแดด

โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.6% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ ยกเว้นหุ้นกลถุ่มน้ำมันและแก๊ส ที่เพิ่มขึ้น 0.9% จากเหตุความไม่สงบดังกล่าว

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กรณีที่ค่าเงินบาทแข็งค่าหลุด 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ยอมรับว่าเงินบาทที่แข็งค่าจะกระทบต่อภาคการส่งออก แต่ยังเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สามารถบริหารจัดการ และที่ผ่าน

มาธปท.ได้ออกมาตรการดูแลค่าเงินบาทมาระดับหนึ่งแล้ว ประกอบกับหากมีคณะกรรมการดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน ที่มีทั้งกระทรวงการ

คลัง ธปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามที่ รมว.คลังดำเนินการนั้น จะช่วยทำให้ค่าเงินบาทของไทยกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้นได้ อย่าง

ไรก็ตาม คลังยังหวังว่าส่งออกของไทยในปี 2563 นี้ จะกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นกว่าปี 2562 โดยยังคาดการณ์ว่าจะขยายตัวเป็นบวกได้ที่

-นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้รัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน ทั้ง บมจ. ปตท. (PTT) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เร่งลงทุนและชำระหนี้ระยะสั้นในช่วงนี้ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยในปี 2563 PTT มีแผนลงทุนประมาณ 1 แสนล้านบาท ขณะที่ กฟผ.มีแผนลงทุนประมาณ 36,000 ล้านบาท ทั้งนี้ การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ยังส่งผลดีต่อการนำเข้าน้ำมันเพื่อจำหน่ายในไทยด้วย ทำให้ใช้เงินซื้อน้ำมันน้อยลงด้วย

- กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก เปิดเผยว่าบริษัทคาดว่าภาพรวมการค้าปลีกไทยในปี 63 นี้ไม่เลวร้ายไปกว่าปี 62 ทำให้มั่นใจและเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง เพราะการลงทุนของบริษัทเป็นการลงทุนระยะยาวขณะนี้กำลังจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาพื้นที่ย่านพระราม 4 และพระราม 9 จึงไม่สามารถรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจเฉพาะปี 62 เท่านั้น พร้อมกับเชื่อว่ารัฐบาลจะออกมาตรการมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคในระยะสั้นช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังประสบปัญหา และอาจมีนโยบายที่ช่วยกระตุ้นระยะยาวเพื่อสนับสนุนให้ลงทุนเพิ่ม

- ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯเผย ทิศทางอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ปี 63 แนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง คาดขยายตัวไม่เกิน 5% หวังมาตรการลดค่าโอนและค่าจด จำนอง กระตุ้นยอดขาย ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเชื่อภาพรวมยังเติบโต ปรับกลยุทธ์รับมือความท้าทายรอบ

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com