• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 28 มกราคม 2563

    28 มกราคม 2563 | SET News


· รายงานจาก The Times ระบุว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกปิดปรับตัวลงทำระดับต่ำสุดวานนี้ โดยมีสาเหตุหลักมาจากความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลกระทบจากการระบาดดังกล่าว โดยจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นหตลาดหุ้นสหรัฐฯ, ตลอดจนเอเชีย และยุโรปก็เคลื่อนไหวในแดนลบตั้งแต่เริ่มต้นสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ดี ตลาดสหรัฐฯอาจเผชิญกับแรงกดดันต่อจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดน่าจะส่งสัญญาณชี้นำเป็นการปรับลดดอกเบี้ย และการส่งสัญญาณของพวกเขาดูจะทำให้หุ้นรายวันทำต่ำสุดรอบ 4 เดือนได้

ทั้งนี้ เฟดจะมีการประชุมในช่วง 2 วันทำการระหว่าง 28 - 29 ม.ค.นี้ และมีเพียง 2-3 รายที่เห็นด้วยกับการปรับลดดอกเบี้ยต่อ ขณะที่ 89.5% มองโอกาสคงดอกเบี้ยในวาระการประชุมครั้งนี้ และ 10.5% กลับมองโอกาสขึ้นดอกเบี้ย

· ตลาดหุ้นเอเชียยังคงปรับตัวลดลง ท่ามกลางจำนวนผู้เสียชีวิตและติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดเป็นความกังวลต่อผลกระทบที่อาจเกิดกับเศรษฐกิจและหนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตรแทน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าบรรดาธนาคารกลางอาจจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับลดลง 0.8% ท่ามกลางดัชนี Nikkei ที่ในช่วงหนึ่ง ร่วงลงไปเกือบ 1% และปิด -0.6% ด้านดัชนีหุ้นออสเตรเลียปิด -1.3% ส่วนดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ปิด -3%



· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดแดนบวก ซึ่งเป็นการฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากปิดตลาดลดลงไปเมื่อวานนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัว 0.6% ขณะที่ดัชนี Stoxx 600 เริ่มมีสัญญาณของการฟื้นตัวขึ้นมาได้ หลังจากเมื่อวานปิดลดลง 2.3% หรือคิดเป็นเงิน 1.80 แสนล้านยูโรที่ถูกถอนออกจากตลาด

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2563 ลดลงราว 2 ล้านคน เหลือ 9 ล้านคน จาก 11 ล้านคนในปีก่อน ทั้งนี้ ททท.เตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อบรรเทาผลกระทบไวรัสอู่ฮั่นเข้าครม.เศรษฐกิจในวันศุกร์นี้ (31 ม.ค.)

อย่างไรก็ตาม ททท.ตั้งเป้ายอดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยปีนี้ 40.78 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.5% สร้างรายได้ 2.03 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%


- ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ของปีงบประมาณ 2563(ต.ค.-ธ.ค.2562) ยังสามารถประคับประคองไปได้เนื่องจากยอดจัดเก็บรายได้ของกรมจัดเก็บภาษีอาทิ กรมสรรพากร ยังเกินเป้า ขณะที่การส่งออกปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นและเงินบาทที่แข็งค่าลดลงด้วยจึงจะเสนอเรื่องขยายเวลายื่นชำระภาษีบุคคลธรรมดาออกไปอีก3 เดือน จากเดิมสิ้นสุดเดือนมี.ค.เป็นเดือน มิ.ย.นี้ ให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณา เพื่อให้ประชาชนมีเม็ดเงินหมุนเวียนใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจส่วนเรื่องงบประมาณปี 2563ที่ล่าช้า รัฐบาลกำลังหาทางออกในเรื่องนี้อยู่ถ้าหากล่าช้าก็อาจมีมาตรการมาอัดฉีดเงินลงไปในระบบรวมทั้งเรื่องการขยายสัดส่วนการเบิกงบประมาณปี 2562 มาใช้ก่อนเป็นเรื่องของสำนักงบประมาณและนายกรัฐมนตรีต้องหารือกันเพราะตามกฎหมายสามารถเบิกจ่ายได้ 100%


- รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม โดยมีวาระการพิจารณาที่น่าสนใจ ได้แก่ คณะกรรมการขับเคลื่อนการเจรจาการค้าและการลงทุน เสนอมาตรการด้านการเงินการคลังสนับสนุนการลงทุน ประกอบด้วย มาตรการหักค่าใช้จ่ายจากการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรได้ 2.5 เท่า สูงที่สุดที่เคยให้มาที่ 2 เท่า และยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร โดยมีผลมาตรการ 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.63 รวมถึงจะมีมาตรการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ด้วย

- กระทรวงการคลัง เสนอร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 เพื่อให้สิทธิดำเนินกระบวนการผลิตที่เป็นสาระสำคัญบางขั้นตอนนอกเขตกระทรวงการคลังปลอดอากรหรือนอกเขตประกอบการเสรี

- คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) เสนอขออนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

- กระทรวงคมนาคม เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาข้อพิพาทสัมปทานทางด่วนระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) 17 คดี โดยการแก้ไขสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 สัญญาเพื่อการต่อขยายโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ส่วน D) และสัญญาโครงการทางด่วนสายบางปะอิน – ปากเกร็ด โดยต่อขยายระยะเวลาสัมปทานทั้ง 3 สัญญาออกไปสิ้นสุดพร้อมกันในวันที่ 31 ต.ค.78 (รวม 15 ปี 8 เดือน นับจากวันที่สัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน AB และ C สิ้นสุดลง) โดยไม่มีการลงทุนปรับปรุงทางด่วน (Double Deck)

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com